นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

 

  1. ความสำคัญ และวัตถุประสงค์

บุญรอดบริวเวอรี่เคารพ และให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า คู่ค้าธุรกิจ พันธมิตรทางธุรกิจ พนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่ และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุญรอดบริวเวอรี่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบุคคลดังกล่าวจะได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างครบถ้วนตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คณะกรรมการบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด จึงอนุมัติให้ใช้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บุญรอดบริวเวอรี่มีหลักเกณฑ์ กลไก มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน ถูกต้อง และเหมาะสม

  1. ขอบเขตการบังคับใช้

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้บังคับกับบุญรอดบริวเวอรี่ พนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของบุญรอดบริวเวอรี่

 

  1. คำนิยาม

3.1 การประมวลผล (Processing) หมายถึง การดำเนินการใดๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลง ปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย

3.2 ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล รูปภาพ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ IP Address

3.3 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject) หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม

3.4 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) หมายถึง บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

3.5 ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) หมายถึง บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

3.6 บุญรอดบริวเวอรี่ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทซึ่งบริษัท                  บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ถือหุ้นไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Governance)

4.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อกำหนดวิธีการ และมาตรการที่เหมาะสมในการปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนี้

(1) กำหนดให้มีโครงสร้างองค์กร (Organizational Structure) รวมทั้งกำหนดบทบาท ภารกิจ และความรับผิดชอบของหน่วยงาน และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เพื่อสร้างกลไกการกำกับดูแล การควบคุม ความรับผิดชอบ การปฏิบัติงาน การบังคับใช้ และการติดตามมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(2) แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) โดยมีบทบาท และหน้าที่ตามที่กำหนดในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

4.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดทำนโยบาย (Policy) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

4.3 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการบริหารการปฏิบัติตามนโยบาย (Policy Management Process) เพื่อควบคุมดูแลให้มีการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่อย่างต่อเนื่อง

4.4 บุญรอดบริวเวอรี่จะดำเนินการฝึกอบรมพนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และทำให้มั่นใจได้ว่าพนักงานที่เกี่ยวข้องทุกคนผ่านการฝึกอบรม และมีความรู้ความเข้าใจในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Processing)

5.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นธรรม โปร่งใส และคำนึงถึงความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ การกำหนดขอบเขตวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ให้ทำได้เท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย และแนวทางการดำเนินธุรกิจของบุญรอดบริวเวอรี่ อีกทั้งบุญรอดบริวเวอรี่จะดำเนินการรักษาความลับ ความถูกต้องสมบูรณ์ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ

5.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการ และการควบคุมเพื่อบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในทุกขั้นตอนให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่โดยจะจัดให้มีนโยบายการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Retention Policy)

5.3 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดทำ และรักษาบันทึกการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Records of Processing: RoP) สำหรับบันทึกรายการ และกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฏหมาย รวมทั้งจะปรับปรุงบันทึกการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรายการ หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

5.4 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการที่ชัดเจนเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการแจ้งวัตถุประสงค์      การเก็บรวบรวม และรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notices) สอดคล้องกับกฎหมาย และจะจัดให้มีขั้นตอนปฏิบัติการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Consent Management Procedure) รวมทั้งจัดให้มีมาตรการดูแล และตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว

5.5 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีนโยบายการทำข้อตกลง หรือสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Outsourcing Policy for Personal Data Processing) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย และสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ                 บุญรอดบริวเวอรี่

5.6 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกลไกการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งจัดให้มีกลไกการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

5.7 ในกรณีที่บุญรอดบริวเวอรี่ส่ง โอน หรือให้บุคคลอื่นใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดทำข้อตกลงกับผู้ที่รับ หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเพื่อกำหนดสิทธิ และหน้าที่ให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ หรือกรณีที่บุญรอดบริวเวอรี่ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บุญรอดบริวเวอรี่จะปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมาย โดยจะจัดให้มีนโยบายการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานภายนอก หรือการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานในต่างประเทศ  (Third Parties/Cross Border Data Transfer Policy)

5.8 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีนโยบายการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนด (Personal Data Disposal Policy) ซึ่งจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อครบกำหนดระยะเวลา โดยปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมาย และแนวทางการดำเนินธุรกิจของบุญรอดบริวเวอรี่

5.9 บุญรอดบริวเวอรี่จะประเมินความเสี่ยง และจัดทำมาตรการเพื่อบรรเทาความเสี่ยง และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการรองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Rights)

6.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีมาตรการ ช่องทาง และวิธีการเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้สิทธิของตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งจะดำเนินการบันทึก และประเมินผลการตอบสนองต่อคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

6.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีขั้นตอนปฏิบัติต่อคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Request Procedure) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคำขอใช้สิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Security)

7.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ รวมทั้งดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล และการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

7.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีขั้นตอนปฏิบัติในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Breach Management Procedure) เพื่อให้สามารถระบุ และจัดการกับเหตุการณ์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างทันท่วงที

7.3 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงเจ้าพนักงานของรัฐ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (ในกรณีที่บุญรอดบริวเวอรี่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกัน) และบุคคลอื่นให้สอดคล้องกับกฎหมาย

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการกำกับให้เกิดการปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Compliance)

8.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการติดตามในกรณีที่กฎหมายเปลี่ยนแปลงไป และปรับปรุงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกฎหมายอยู่เสมอ

8.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีการทบทวน และปรับปรุงนโยบาย (Policy) มาตรฐานปฏิบัติงาน(Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ เพื่อให้ทันสมัยสอดคล้องกับกฎหมาย และสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา

 

  1. บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ

9.1 คณะกรรมการบริษัท มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

(1) กำกับให้เกิดโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้องของบุญรอดบริวเวอรี่ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(2) กำกับดูแล และสนับสนุนให้บุญรอดบริวเวอรี่ดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับกฎหมาย

9.2 คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูล (Data Governance) คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูลที่คณะกรรมการบริษัทแต่งตั้งขึ้นมีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

(1) จัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนโยบาย (Policy) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(2) ประเมินประสิทธิภาพการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ         บุญรอดบริวเวอรี่ และรายงานผลการประเมินดังกล่าวให้คณะกรรมการบริษัททราบเป็นประจำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี รวมถึงควบคุมดูแลให้มั่นใจได้ว่าความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการจัดการ และมีแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

(3) กำหนด และทบทวนมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) และแนวปฏิบัติ (Guidelines) เพื่อให้การดำเนินงานของบุญรอดบริวเวอรี่สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(4) เสนอรายชื่อบุคคลให้กรรมการผู้จัดการใหญ่แต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)

9.3 ผู้บริหาร มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบในการติดตามควบคุมให้หน่วยงานที่ตนดูแลปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ และส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นกับพนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่

9.4 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงหน้าที่ดังต่อไปนี้

(1) รายงานสถานะการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูลทราบอย่างสม่ำเสมอ และจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกฎหมายอยู่เสมอ

(2) ให้คำแนะนำพนักงาน และหน่วยงานต่างๆ ของบุญรอดบริวเวอรี่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(3) ตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของบุญรอดบริวเวอรี่ ให้เป็นไปตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

9.5 พนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่ มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

(1) ปฏิบัติให้สอดคล้องกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่  มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(2) รายงานเหตุการณ์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

 

  1. โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่อาจมีความผิด และถูกลงโทษทางวินัย รวมทั้งอาจได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

 

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือผู้เข้ามาติดต่อ

 

            บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอก บริษัทฯ จึงยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัทฯ เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือผู้เข้ามาติดต่อ (รวมเรียกว่า “ท่าน”) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ และรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

 

1. นิยาม

บริษัทฯ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัทซึ่งมีรายชื่อตามลิงค์นี้ https://www.boonrawd.co.th
พนักงาน หมายถึง พนักงานของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
ผู้ดูแลระบบงาน หมายถึง หน่วยงาน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของระบบงาน หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของระบบงาน หมายถึง ผู้บริหารของฝ่ายงานทางธุรกิจ หรือผู้บริหารที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อระบบงานหนึ่ง ๆ
ผู้เยาว์

 

 

เจ้าของข้อมูล

ส่วนบุคคล

หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ยกเว้นบุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์แต่ได้ทำการสมรสตามกฎหมายอันมีผลให้เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งมีความหมายในลักษณะเป็นบุคคลที่ข้อมูลนั้นชี้บ่งไปถึง ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นคนสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล รูป ลายนิ้วมือ รหัสประชาชน ซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางตรง หรือการเก็บ Location หรือ Cookie ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางอ้อม นอกจากนี้รวมถึงข้อมูลที่โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถนำไประบุตัวบุคคลได้แต่เมื่อนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นแล้วก่อให้เกิดชุดข้อมูลที่สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น ที่อยู่ เพศ และอายุ เมื่อนำมารวมกันสามารถนำไประบุตัวบุคคลได้ก็จะเกิดเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

 

 

 

 

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพ หรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า (Face Recognition) ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบจัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
แอปพลิเคชัน หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดยแอพพลิเคชั่น (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่าส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่าง ๆ

 

 

 

คุกกี้ (Cookie) หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว
ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดทำข้อมูลนิรนามแล้ว

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ได้แก่

2.1.1 เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของบริษัทฯ ไม่ว่ากิจกรรมดังกล่าวจะจัดโดยบริษัทฯ หรือบุคคลที่บริษัทฯ ว่าจ้าง หรือเป็นกิจกรรมที่บริษัทฯ มีส่วนร่วมในการจัด บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ หรือเมื่อท่านเข้ามาในบริเวณพื้นที่จัดกิจกรรม หรือพื้นที่ของบริษัทฯ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม เช่น

(ก) ข้อมูลสำหรับการลงทะเบียน และการเข้าร่วมกิจกรรม เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล แชทออนไลน์ โซเชียลมีเดีย

(ข) ภาพและเสียง รูปถ่าย และภาพเคลื่อนไหว

(ค) กิจกรรม หรือเหตุการณ์ที่ท่านเคยเข้าร่วมในอดีต หรือที่เคยลงทะเบียนไว้

(ง) รายละเอียดการชำระเงิน และธุรกรรมทางการเงินของท่านที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม

(จ) รายละเอียดของบุคคลที่ท่านอ้างถึง และรายละเอียดของผู้ที่บริษัทฯ สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

2.1.2 เมื่อท่านเป็นบุคคลทั่วไปที่เข้ามาบริเวณพื้นที่ของบริษัทฯ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดย

(ก) เมื่อท่านเข้ามาในพื้นที่ของบริษัทฯ จะมีการเก็บภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (“กล้อง CCTV”) ของบริษัทฯ โดยไม่ได้เก็บข้อมูลเสียงผ่านทางกล้อง CCTV อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะติดป้ายให้ทราบว่ามีการใช้กล้อง CCTV ในบริเวณพื้นที่ของบริษัทฯ

(ข) บันทึกของผู้มาติดต่อ (visitor records)

– ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชน หรือหลักฐานอื่นทำนองเดียวกัน

– เมื่อท่านเข้ามาภายในบริเวณบริษัทฯ ด้วยยานพาหนะ บริษัทฯ จะเก็บหมายเลขทะเบียนยานพาหนะ

(ค) เมื่อท่านใช้บริการ Wi-Fi ของบริษัทฯ ท่านต้องทำการลงทะเบียนเข้าใช้งานตามข้อกำหนดการใช้งานของบริษัทฯ โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมเพื่อดำเนินการให้บริการ Wi-Fi แก่ท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล

 

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)

2.2.1 บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

  • บริษัทฯ อาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง โรคประจำตัว ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา หมู่โลหิต ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการจ่ายยา เพื่อประโยชน์ในการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ หรือการเข้ามาในพื้นที่ของบริษัทฯ รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อการบริหารจัดการที่เหมาะสมอื่นๆ

(ข) ข้อมูลชีวภาพเพื่อใช้ในการระบุ และยืนยันตัวตนของท่าน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น

(ค) ความเชื่อในลัทธิศาสนา ปรัชญา เชื้อชาติ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรมที่เหมาะสม

(ง) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่านเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

2.2.3 ในกรณีที่จำเป็น บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน รวมทั้งการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านไปต่างประเทศต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้บริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน

ซึ่งต่อไปในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับท่านข้างต้นรวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

3.1 เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ เช่น เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของบริษัทฯ หรือเข้ามาติดต่อในพื้นที่ของ        บริษัทฯ เพื่อดำเนินการใด ๆ

3.2 เพื่อให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนด เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย

3.3 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เช่น การบันทึกเสียง การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหวกล้อง CCTV การยืนยันตัวตน การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับจากท่าน การวิเคราะห์ และจัดทำฐานข้อมูล การบริหารจัดการ และปรับปรุง การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมการเข้าออกอาคารสถานที่ บริเวณภายในพื้นที่ และระบบสารสนเทศ อินเตอร์เน็ตของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัย การป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรมเป็นหลักฐานในการสืบสวน สอบสวนทั้งกรณีมาตรการภายในบริษัทฯ หรือการดำเนินการของเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย

3.4 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ และหากท่านเป็นผู้เยาว์ ก่อนให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ โปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้บริษัทฯ ทราบ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของท่านด้วย

3.5 เพื่อป้องกัน และระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน หรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุม และการป้องกันโรค

3.6 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัทฯ

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่าน หรือฐานทางกฎหมายอื่นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เช่น ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ให้บริการภายนอกทั้งในประเทศ และต่างประเทศด้านการรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบประวัติ การจัดทำโปรแกรม ระบบสารสนเทศ ผู้ให้บริการกล้อง CCTV ผู้จัดงาน จัดกิจกรรม ตัวแทนของบริษัทฯ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย นิติบุคคล หรือบุคคลใด ๆ ที่มีความสัมพันธ์ หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัทฯ บุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจ หรือให้บริการแก่ท่าน ซึ่งรวมตลอดถึงผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทฯ และของบุคคล หรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว

บริษัทฯ จะกำหนดให้ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

 

5. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ บริษัทฯ จึงอาจมีความจำเป็นต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทฯ เช่น การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน Server, Cloud ในประเทศต่าง ๆ

กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะดูแลการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกรณีที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมาตรการเยียวยาตามที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับตามที่กฎหมายประเทศนั้นกำหนด เช่น กำหนดให้ผู้รับข้อมูลมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับมาตรการของบริษัทฯ มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกัน บริษัทฯ อาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบ และรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการให้การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้

6. ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนด หรืออนุญาตไว้ หรือตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้

6.2 ในกรณีกล้อง CCTV บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูล ดังนี้

6.2.1 ในสถานการณ์ปกติ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บไว้นานถึง 30 วัน

6.2.2 ในกรณีจำเป็น เช่น ต้องใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี หรือกรณีที่เจ้าของส่วนบุคคลร้องขอ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บไว้เกินกว่า 30 วัน และบริษัทฯ จะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัยเมื่อเสร็จสิ้นวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว

6.3 กรณีที่บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอมเพื่อให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้

6.4 บริษัทฯ จะลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม หรือสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

7. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจ หรือโดยไม่ชอบ และบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็น และเหมาะสม

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และมีความปลอดภัยตามมาตรการที่บริษัทฯ กำหนดเมื่อต้องมีการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น ดังนี้

8.1  สิทธิขอถอนความยินยอม

หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อท่าน ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษา และสอบถามถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นก่อนเพิกถอนความยินยอม

ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่น ท่านให้คำรับรองว่าท่านมีอำนาจกระทำการแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการรับทราบนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และในการให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

8.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของท่าน

8.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

8.4 สิทธิขอคัดค้าน

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่ละกรณี

8.5 สิทธิขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอม หรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็น และต้องลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน

8.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.8 สิทธิร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

8.9 การใช้สิทธิ

การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิ และยื่นคำร้องต่อ บริษัทฯ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธ หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย (โดยท่านเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลบังคับใช้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)

ระยะเวลาดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ โดยเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอ

สิทธิ ระยะเวลาดำเนินการ
สิทธิขอถอนความยินยอม 7 วัน
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
สิทธิขอคัดค้าน
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล 1 วัน

 

9. การติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ สามารถติดต่อบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ผ่านช่องทางดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เบอร์โทรศัพท์ 0-2242-4000 หรืออีเมล dpo@boonrawd.co.th

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

 

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) สำหรับลูกค้า

 

            บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอก บริษัทฯ จึงยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าลูกค้าของบริษัทฯ ได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อจัดให้มีวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมสำหรับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทฯ ทำการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนกฎหมาย และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

1. นิยาม

บริษัทฯ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัทซึ่งมีรายชื่อตามลิงค์นี้ https://www.boonrawd.co.th
ผู้ใช้บริการ หมายถึง บุคคล หรือนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้าใช้บริการ    ต่าง ๆ ของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
ผู้มีอำนาจอนุมัติ หมายถึง ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ ให้มีอำนาจในการอนุมัติใด ๆ ภายใต้ขอบเขตอำนาจที่ได้รับจากบริษัทฯ
ผู้ดูแลระบบงาน หมายถึง หน่วยงาน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของระบบงาน หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของระบบงาน หมายถึง ผู้บริหารของฝ่ายงานทางธุรกิจ หรือผู้บริหารที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของข้อมูล

ส่วนบุคคล

หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งมีความหมายในลักษณะเป็นบุคคลที่ข้อมูลนั้นชี้บ่งไปถึง ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นคนสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา
ผู้เยาว์ หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ยกเว้นบุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์แต่ได้ทำการสมรสตามกฎหมายอันมีผลให้เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
คนไร้ความสามารถ หมายถึง บุคคลวิกลจริตที่ไม่สามารถดูแลตัวเอง หรือผลประโยชน์ของตัวเองได้ ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
คนเสมือนไร้ความสามารถ หมายถึง บุคคลที่มีกายพิการ หรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือประพฤติสุรุ่ยสุร่ายเสเพลเป็นอาจิณ หรือติดสุรายาเมา หรือเหตุอื่นใดทำนองเดียวกันจนไม่สามารถจัดทำการงานโดยตนเองได้ หรือจัดกิจการไปในทางที่เสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเอง หรือครอบครัว ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ และอยู่ในความดูแลของผู้พิทักษ์ที่ศาลแต่งตั้ง

 

 

 

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล รูป ลายนิ้วมือ รหัสประชาชน ซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางตรง หรือการเก็บ Location หรือ Cookie ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางอ้อม นอกจากนี้ รวมถึงข้อมูลที่โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถนำไประบุตัวบุคคลได้แต่เมื่อนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นแล้วก่อให้เกิดชุดข้อมูลที่สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น ที่อยู่ เพศ และอายุ เมื่อนำมารวมกันสามารถนำไประบุตัวบุคคลได้ก็จะเกิดเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพ หรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า (Face Recognition) ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เปิดเผยต่อสาธารณชน เช่น ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูล และรหัสการเข้าระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Credential) เช่น Facebook, Twitter, Line เพื่อเชื่อมต่อ หรือเข้าสู่บริการ  ใด ๆ ของบริษัทฯ เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Account ID) สิ่งที่สนใจ (Interests) รายการที่ชอบ (Likes) และรายชื่อเพื่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว

 

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือชุดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลง หรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
แอปพลิเคชัน หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดย แอปพลิเคชัน (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่าง ๆ
IP Address

 

 

คุกกี้ (Cookie)

หมายถึง สัญลักษณ์เชิงหมายเลขที่กำหนดให้แก่อุปกรณ์แต่ละชนิด เช่นคอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องพิมพ์ที่มีส่วนร่วมอยู่ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่ง ๆ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตโพรโทคอลในการสื่อสาร

หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว

สำนักงาน หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

 

2. บทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบ

2.1 คณะกรรมการบริษัทฯ มีหน้าที่กำกับดูแลให้มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย และกฎเกณฑ์ของราชการ

2.2 คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูล (Data Governance) ได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการ บริษัทฯ ให้มีหน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

2.2.1 จัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนโยบาย (Policy) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.2.2 กำหนด และทบทวนนโยบาย มาตรฐานการปฏิบัติงาน แนวปฏิบัติ และขั้นตอนปฏิบัติเพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทฯ สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ

2.2.3 ให้ข้อเสนอแนะ และพิจารณากลั่นกรองวัตถุประสงค์ นโยบาย แผนงาน แนวปฏิบัติ กระบวนการ และเอกสารที่เกี่ยวข้องด้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

2.2.4 ประเมินประสิทธิภาพการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ และรายงานผลการประเมินดังกล่าวให้คณะกรรมการบริษัทฯ ทราบเป็นประจำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี

2.2.5 แต่งตั้ง หรือปรับเปลี่ยนคณะทำงานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูลได้ตามความเหมาะสม

2.2.6 กำกับดูแลการดำเนินงานของคณะทำงานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

2.2.7 เชิญหน่วยงาน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจง หรือให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานได้

2.2.8 กำกับดูแลการปฏิบัติตามนโยบาย และมีอำนาจอนุมัติการเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือทบทวนนโยบายนี้

2.3 ผู้บริหารมีหน้าที่ และความรับผิดชอบในการจัดการ ติดตาม และควบคุมให้หน่วยงานที่ตนดูแลปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ รวมถึงจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิผล

2.4 พนักงานมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้ ระเบียบปฏิบัติ และคำสั่งของบริษัทฯ รวมถึงกฎหมาย และกฎเกณฑ์ของราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด

3. บททั่วไป

ข้อกำหนดทั่วไป

3.1 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ครอบคลุมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา

3.2 บริษัทฯ กำหนดให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) มีหน้าที่ดำเนินการทบทวนนโยบายฉบับนี้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญต่อการปฏิบัติงานตามนโยบายฉบับนี้พร้อมเสนอให้คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูล (Data Governance) ของบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติ และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ บริษัทฯ จะประกาศให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ https://www.boonrawd.co.th

3.3 บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะนั้น เว้นแต่บริษัทฯ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หรือมีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ ดังนี้

3.3.1 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา

3.3.2 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

3.3.3 เป็นการจำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่เกินขอบเขตที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุผล

3.3.4 เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ

3.3.5 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต

3.3.6 เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ

3.4 บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย และแจ้งรายละเอียดในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลทราบตามที่กฎหมายกำหนด

 

3.5 บริษัทฯ ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม เว้นแต่มีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ทางราชการที่ทำให้บริษัทฯ ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป

3.6 บริษัทฯ มีการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย รวมถึงคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล

4. การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

4.1 การขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ต้องดำเนินการอย่างชัดแจ้งเป็นหนังสือ หรือทำโดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่โดยสภาพไม่อาจขอความยินยอมด้วยวิธีดังกล่าวได้ การขอความยินยอมด้วยวิธีอื่นจะต้องมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้แสดงเจตนาให้ความยินยอม

4.2 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับการแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่หลอกลวง หรือทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใจผิดในวัตถุประสงค์ และคำนึงอย่างที่สุดในความเป็นอิสระของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการให้ความยินยอม

4.3 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส หรือไม่มีฐานะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ให้ขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์

4.4 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคนไร้ความสามารถ ให้ขอความยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถ

4.5 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ ให้ขอความยินยอมจากผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ

4.6 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้มีอำนาจตามข้อ 4.3, 4.4, 4.5 ต้องการถอนความยินยอมที่เคยให้ไว้ ให้ดำเนินการตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลขอโดยง่ายเช่นเดียวกับการให้ความยินยอม และหากการถอนความยินยอมส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในเรื่องใด ให้แจ้งถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้นให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ

4.7 บริษัทฯ ต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้จะทำไม่ได้ เว้นแต่ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยได้รับความยินยอมก่อนเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยแล้ว

 

5. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ในการดำเนินงานของบริษัทฯ ในด้านต่าง ๆ ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ของราชการ

5.2 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ให้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อน หรือในขณะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้

5.2.1 วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมเพื่อการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ หรือเปิดเผย

5.2.2 ความจำเป็นที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อเข้าทำสัญญา และผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

5.2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีการเก็บรวบรวม และระยะเวลาในการเก็บรวบรวมไว้

5.2.4 ประเภทของบุคคล หรือหน่วยงานที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงรายชื่อของบุคคล หรือหน่วยงานดังกล่าว (ตามแต่กรณี)

5.2.5 สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย

5.2.6 ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สถานที่ติดต่อ และวิธีการติดต่อ

5.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมต้องถูกต้องครบถ้วนตามข้อเท็จจริงที่ได้รับแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน

5.4 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ให้ดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่มีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ และต้องขออนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติทุกครั้งก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

5.5 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ต้องแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่มีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ โดยขออนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติ

5.6 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีการบันทึกรายละเอียดวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูล สิทธิ และวิธีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและเงื่อนไขเกี่ยวกับบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือสำนักงานสามารถตรวจสอบได้

 

6. การเข้าถึง และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 พนักงานของบริษัทฯ สามารถเข้าถึง หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้เท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติงาน และตามสิทธิที่บริษัทฯ กำหนด หากพนักงานของบริษัทฯ มีความจำเป็นในการปฏิบัติงานที่ต้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเกินกว่าสิทธิที่บริษัทฯ กำหนด ต้องดำเนินการขออนุมัติจากผู้มีอำนาจ

6.2 พนักงานของบริษัทฯ ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอมเท่านั้น เว้นแต่มีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ

6.3 ผู้ดูแลระบบงาน และเจ้าของระบบงานต้องอนุญาตให้พนักงานของบริษัทฯ เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้เฉพาะพนักงานของบริษัทฯ ที่มีสิทธิตามที่กำหนด หรือได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติ

 

7. วิธีที่ได้มา

บริษัทฯ มีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยกระบวนการต่อไปนี้

7.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง

7.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทในเครือ

7.3 ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่สาม เช่น ตัวแทน ร้านค้า หรือบริษัทที่ให้การบริการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล คู่ค้า พันธมิตร เป็นต้น

7.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เช่น ชื่อของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และที่อยู่ไอพี (IP Address) ผ่านการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต วันที่ และเวลาของการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หน้าเพจที่เข้าเยี่ยมชมขณะเข้าเว็บไซต์ และที่อยู่ของเว็บไซต์ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับเว็บไซต์ของบริษัทฯ

7.5 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากข้อมูลสาธารณะ (Public Records) และที่ไม่ใช่สาธารณะ           (Non-Public Records) ที่บริษัทฯ มีสิทธิเก็บรวบรวมได้ตามกฎหมาย

7.6 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแลที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย

 

8. การเปิดเผย และการรับข้อมูลส่วนบุคคล

8.1 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคล หรือองค์กรภายนอกบริษัทฯ ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และต้องได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ของราชการ

บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในเครือ บุคคลภายนอก และ/หรือองค์กร หรือหน่วยงานภายนอกเฉพาะในกรณี ดังต่อไปนี้

8.1.1 ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นคนกลาง ได้แก่ บริษัทขนส่ง บริษัทที่ให้บริการในการจัดเก็บข้อมูล และรวบรวมข้อมูล บริษัทรับพัฒนา และบำรุงรักษาระบบในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ

8.1.2 คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทย่อย และ/หรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อให้บริการในการนำเสนอสิทธิประโยชน์ และบริการอื่น ๆ ของบริษัทฯ แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการพัฒนา ปรับปรุง ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัทฯ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาแพลตฟอร์มบริการลูกค้า การส่งอีเมล/SMS การพัฒนาเว็บไซต์ การพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ การสำรวจความพึงพอใจ และการทำวิจัย  การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยจะมีการทำสัญญารักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ กรณีนิติบุคคลจะต้องมีมาตรฐานด้านความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ

8.1.3 หน่วยงานรัฐบาล รัฐบาล หรือองค์กรอื่นตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง คำร้องขอ เพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย

8.2 การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคล หรือองค์กรภายนอกบริษัทฯ ต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ และต้องได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ของราชการ

บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับจากการให้บริการ หรือการดำเนินงานของบริษัทฯ ผ่านทุกช่องทางซึ่งรวมถึงช่องทางดังต่อไปนี้

8.2.1 ข้อมูลที่ได้รับเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทำการลงทะเบียน หรือกรอกใบสมัครขอเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ หรือการใช้บริการอื่น ๆ ของบริษัทฯ เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวอื่น ๆ หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ อีเมล เป็นต้น

8.2.2 ข้อมูลจากการสมัครสมาชิก หรือเข้าร่วมกิจกรรม ข้อมูลในการสร้างบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ที่ถูกสร้าง   โปรไฟล์ที่ประกอบด้วยรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัทฯ เพื่อการเข้าใช้บริการในช่องทางการให้บริการของบริษัทฯ อาทิ แอปพลิเคชันการใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ และ/หรือผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้แก่ บัญชีออนไลน์ หรือบัญชีของแอปพลิเคชันที่ให้บริการของบริษัทฯ ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้เพื่อทำการสมัครต่าง ๆ ได้แก่ สมัครเข้าร่วมกิจกรรม และ/หรือติดต่อกับบริษัทฯ ผ่านทางเว็บไซต์หรือทางช่องทางอื่น ๆ ตามที่บริษัทฯ กำหนด

8.2.3 ข้อมูลการสมัครรับข่าวสารต่าง ๆ จากการทำแบบสำรวจ หรือข้อมูลการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ความพึงพอใจ ความสนใจ หรือพฤติกรรมการบริโภค เป็นต้น

8.2.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมกับบริษัทฯ หรือกับบริษัทย่อย หรืออื่น ๆ เช่น ข้อมูลการสมัครงาน ข้อมูลการสมัครเป็นตัวแทน ข้อมูลเพื่อการเข้าเสนอราคา ซึ่งรวมถึงข้อมูลบัตรเครดิต หรือ      บัตรเดบิต หมายเลขบัญชีธนาคาร หรือข้อมูลเกี่ยวกับธนาคาร หรือการชำระเงินอื่น ๆ รวมทั้งวันที่ และเวลาที่ชำระเงิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของการทำธุรกรรมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

8.2.5 ข้อมูลจากการเข้าชม หรือใช้เว็บไซต์ของบริษัทฯ เว็บไซต์อื่น ๆ ของบริษัทย่อย หรือ        แอปพลิเคชันของบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการ ข้อมูลการใช้ Social Media และการโต้ตอบกับโฆษณาออนไลน์ของบริษัทฯ รุ่น และประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดเข้าชมเว็บไซต์ ประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อเข้าถึงการบริการ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Laptop หรือสมาร์ทโฟน ข้อมูลประเภทระบบปฏิบัติการ และแพลตฟอร์ม ที่อยู่ IP address ของอุปกรณ์ หรือเครื่องมือปลายทาง ข้อมูล Location ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการ และผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าชม หรือค้นหา

8.2.6 ข้อมูลจากบันทึกการติดต่อของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ ซึ่งเก็บในรูปแบบของบันทึกข้อความของผู้รับบริการ การประเมินความพึงพอใจ การวิจัยและสถิติ หรือการบันทึกเสียงสนทนา หรือการบันทึกภาพผ่านกล้อง CCTV เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อกับบริษัทฯ เช่น ศูนย์บริการลูกค้าของบริษัทฯ รวมไปถึงการให้ข้อมูลผ่านสื่อที่ทำการวิจัยต่าง ๆ อาทิ SMS Social Media แอปพลิเคชัน หรือ อีเมล เป็นต้น

8.2.7 ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูล และรหัสการเข้าสู่ระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Credential) เช่น Facebook, Twitter, Line เพื่อเชื่อมต่อ หรือเข้าสู่บริการ ใด ๆ ของบริษัทฯ เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Account ID) สิ่งที่สนใจ (Interests) รายการที่ชอบ (Likes) และรายชื่อเพื่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว

8.3 กรณีที่บริษัทฯ ให้บุคคล หรือองค์กรภายนอกบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแทนบริษัทฯ (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ต้องใช้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเทียบเท่ามาตรฐานของบริษัทฯ ตามนโยบายความมั่นคงปลอดภัยในการบริหารจัดการผู้ให้บริการภายนอกด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และต้องจัดให้มีข้อตกลงระหว่างกันเพื่อควบคุมการดำเนินงานของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายโดยกำหนดวัตถุประสงค์ หรือคำสั่งในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน  และกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทฯ นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ หรือคำสั่งที่บริษัทฯ กำหนด

 

9. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

ในกรณีที่บริษัทฯ มีการโอน ถ่าย และ/หรือส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือสัญญาร่วมธุรกิจกับหน่วยงาน องค์กรที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย อาทิเช่น

9.1 กรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นในการจัดเก็บ และ/หรือโอน ถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการจัดเก็บ

9.2 การประมวลผลในระบบคลาวด์ (Cloud) บริษัทฯ จะพิจารณาองค์กรที่มีมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยในระดับสากล และจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบการเข้ารหัส หรือวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เป็นต้น

อนึ่ง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลภายนอกที่บริษัทฯ จะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้จากเว็บไซต์ของบริษัทฯ ทั้งนี้รายชื่อบุคคลภายนอกที่บริษัทฯ จะทำการเปิดข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจมีการเพิ่มขึ้น หรือลดลงได้ซึ่งบริษัทฯ จะทำข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเสมอ

 

10. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย และความลับของข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความมั่นใจในการบริหารจัดการของบริษัทฯ ในการป้องกันความเสี่ยงอันอาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเข้าถึงโดยมิชอบ รั่วไหล ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข สูญหาย บริษัทฯ ถือปฏิบัติตามนโยบายความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศ รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศที่เป็นที่ยอมรับ และการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

บริษัทฯ มีมาตรการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะกำหนดให้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัทฯ เพื่อการให้บริการของบริษัทฯ เช่น พนักงานบริษัทฯ ซึ่งเป็นบุคคลที่บริษัทฯ อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะต้องยึดมั่น และปฏิบัติตามมาตรการการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยบริษัทฯ มีมาตรการป้องกันทั้งทางกายภาพ และทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่บังคับใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อบริษัทฯ ทำสัญญา หรือข้อตกลงกับบุคคลที่สาม บริษัทฯ จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ครอบครองจะความปลอดภัย

11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังต่อไปนี้

11.1 สิทธิในการขอรับทราบความมีอยู่ ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ของบริษัทฯ

11.2 สิทธิในการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตน ซึ่งบริษัทฯ จะมีขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อให้ท่านยืนยันตัวตนกับทางบริษัทฯ ก่อน

11.3 สิทธิในการขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

11.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน รวมถึงสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

11.5 สิทธิในการขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเป็นการชั่วคราว

11.6 สิทธิในการขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

11.7 สิทธิในการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งผู้ใช้บริการไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวม หรือจัดเก็บ

11.8 สิทธิในการถอนความยินยอมที่เคยให้แก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดช่องทางการติดต่อเพื่อใช้สิทธิของท่านตามรายละเอียดในข้อ 18 โดยบริษัทฯ จะดำเนินการ และพิจารณาตามที่ท่านร้องขอภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้อง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ สามารถปฏิเสธการดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด  หรือตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯ กรณีที่จะทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเสียสิทธิประโยชน์     ต่าง ๆ

อนึ่ง การลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้  หรือการยกเลิกความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถทำได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯ เท่านั้น ทั้งนี้การใช้สิทธิดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อกรณีการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯ หรือกรณีการให้บริการอื่น ๆ เนื่องจากจะไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ จึงอาจเกิดข้อจำกัดในการให้บริการในบางส่วนที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และอาจทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ได้รับสิทธิประโยชน์การบริการ และข่าวสารจากบริษัทฯ ต่อไป

 

12. ระยะเวลาจัดเก็บ และสถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ และความจำเป็นที่บริษัทฯ จะต้องดำเนินการจัดเก็บรวบรวม และประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่เจ้าของข้อมูลไม่มีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทฯ ระยะเวลาหนึ่ง และสอดคล้องตามระยะเวลา และอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นต้น

 

13. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด

นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น และภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่าง ๆ ทางไปรษณีย์ อีเมล และด้วยวิธีการอื่นใด รวมถึงการดำเนินการด้านการตลาดแบบตรง  เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับจากการเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ผ่านการแนะนำผลิตภัณฑ์ และบริการที่เกี่ยวข้อง

ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับการสื่อสารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดจากบริษัทฯ ยกเว้นการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูล และ/หรือบริการที่บริษัทฯ ได้ให้แก่ท่าน เช่น ใบเสร็จรับเงิน       เป็นต้น

 

14. คุกกี้

บริษัทฯ จะใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเก็บข้อมูล และรวบรวมสถิติ วิจัย วิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชัน ทั้งนี้การเก็บคุกกี้นั้นเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

 

15. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ภายนอก

เว็บไซต์ของบริษัทฯ จะมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สามซึ่งเว็บไซต์เหล่านั้นอาจมีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างจากของบริษัทฯ ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์นั้น ๆ เพื่อเข้าใจถึงรายละเอียดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อตัดสินใจในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม

 

16. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และนโยบาย ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ของบริษัทฯ รวมทั้งประสานงาน และให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

17. คำถามที่เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว

หากท่านมีคำถาม  หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือการจัดการดูแลข้อมูลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายัง

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เบอร์โทรศัพท์ 0-2242-4000 หรืออีเมล dpo@boonrawd.co.th

 

18. ช่องทางการติดต่อ

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ ข้อมูลที่ทางบริษัทฯ เก็บรวบรวม หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อ 11. ท่านสามารถติดต่อมายัง

 

ชื่อบริษัทฯ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
ที่อยู่ 999 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
เว็บไซต์ของบริษัทฯ www.boonrawd.co.th
เบอร์โทรศัพท์

อีเมล

0-2242-4000

dpo@boonrawd.co.th

19. ติดต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Appropriate Authority)

หากท่านต้องการรายงานเรื่องร้องเรียน หรือหากท่านรู้สึกว่าบริษัทฯ ไม่ตอบข้อกังวลของท่านในลักษณะที่น่าพึงพอใจ ท่านสามารถติดต่อ และ/หรือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามรายละเอียดด้านล่าง

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

อีเมล                            pdpc@mdes.go.th

เบอร์โทรศัพท์              0-2142-1033

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

สำหรับผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน, ผู้สมัครเข้าฝึกงาน และผู้ฝึกงาน

 

          บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอก บริษัทฯ จึงยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัทฯ เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน, ผู้สมัครเข้าฝึกงาน และผู้ฝึกงาน (รวมเรียกว่า “ท่าน”) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ และรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

 

1. นิยาม

บริษัทฯ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัทซึ่งมีรายชื่อตามลิงค์นี้ https://www.boonrawd.co.th
พนักงาน หมายถึง พนักงานของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
ผู้ดูแลระบบงาน หมายถึง หน่วยงาน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของระบบงาน หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของระบบงาน หมายถึง ผู้บริหารของฝ่ายงานทางธุรกิจ หรือผู้บริหารที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อระบบงานหนึ่ง ๆ
ผู้เยาว์

 

 

เจ้าของข้อมูล

ส่วนบุคคล

หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ยกเว้นบุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์แต่ได้ทำการสมรสตามกฎหมายอันมีผลให้เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งมีความหมายในลักษณะเป็นบุคคลที่ข้อมูลนั้นชี้บ่งไปถึง ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นคนสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล รูป ลายนิ้วมือ รหัสประชาชน ซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางตรง หรือการเก็บ Location หรือ Cookie ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางอ้อม นอกจากนี้รวมถึงข้อมูลที่โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถนำไประบุตัวบุคคลได้แต่เมื่อนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นแล้วก่อให้เกิดชุดข้อมูลที่สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น ที่อยู่ เพศ และอายุ เมื่อนำมารวมกันสามารถนำไประบุตัวบุคคลได้ก็จะเกิดเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

 

 

 

 

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพ หรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า (Face Recognition) ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบจัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
แอปพลิเคชั่น หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดยแอพพลิเคชั่น (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่าส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่าง ๆ

 

 

 

คุกกี้ (Cookie) หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว
ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดทำข้อมูลนิรนามแล้ว

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ได้แก่

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้แก่บริษัทฯ โดยตรง และข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับ หรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น หน่วยงานของรัฐ, บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน, สถาบันการเงิน, ผู้ให้บริการทางการเงิน, พันธมิตรทางธุรกิจ, บริษัทข้อมูลเครดิต และผู้ให้บริการข้อมูล เป็นต้น โดยบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่บริษัทฯ มีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต
  • ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในใบสมัคร

(ก) ข้อมูลตามเอกสารที่ท่านส่งมอบให้บริษัทฯ เช่น Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายสมัครงาน ใบสมัครงาน ความเห็นประกอบการสรรหาพนักงาน

(ข) ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด น้ำหนัก ส่วนสูง สถานที่เกิด สถานภาพสมรส สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง ความเป็นพลเมือง เลขที่ใบขับขี่ สถานภาพการเกณฑ์ทหาร ใบอนุญาตต่าง ๆ

(ค) ข้อมูลในการติดต่อกับท่าน เช่น ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์ รวมถึงข้อมูลในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ

(ง) เงื่อนไขในการปฏิบัติงาน เช่น สามารถปฏิบัติงานต่างจังหวัดได้หรือไม่ พื้นที่ที่ต้องการปฏิบัติงาน

(จ) ข้อมูลของคู่สมรส บุตร บิดามารดา เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน สัญชาติ  หมายเลขโทรศัพท์ ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

(ฉ) รูปถ่าย และภาพเคลื่อนไหว

(ช) ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของท่าน เช่น ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา สถาบัน/มหาวิทยาลัย ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ผลการศึกษา ผลการทดสอบ สิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางด้านภาษา และความสามารถอื่นๆ ข้อมูลจากการอ้างอิงที่ท่านได้ให้แก่บริษัท

(ซ) ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงาน และข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต เช่น ประวัติการทำงาน ตำแหน่งงาน รายละเอียดของนายจ้าง เงินเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการที่ได้รับ

(ฌ) ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่ปฏิบัติงานได้

(ญ) ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ

(ฎ) รายละเอียดของบุคคลที่ท่านอ้างถึง และรายละเอียดของผู้ที่บริษัทสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

2.1.3 ข้อมูลจากการทำแบบทดสอบข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของท่าน เช่น นิสัย ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความผูกพันต่อองค์กร ซึ่งอาจได้มาจากการสังเกตุ และวิเคราะห์ของบริษัทฯ ในระหว่างที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทฯ

2.1.4 ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานให้หน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน

2.1.5 ข้อมูลที่รวบรวมจากท่าน เช่น ข้อมูลที่ท่านระบุ หรือให้ไว้แก่บริษัทฯ ข้อมูลที่ท่านแจ้งแก่บริษัทฯ ในระหว่างการสัมภาษณ์งาน ข้อมูลของท่านจากการทำแบบทดสอบต่างๆ ข้อมูลที่ท่านให้ไว้ในการเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทฯ

2.1.6 ข้อมูลที่ท่านเลือกจะแบ่งปัน และเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชั่น เครื่องมือ แบบสอบถาม แบบประเมิน และบริการต่างๆ ของบริษัทฯ

2.1.7 สำเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่าน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับรถ เอกสารที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน เช่น ประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร วุฒิบัตร ใบแสดงผลการศึกษา

2.1.8 ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการสรรหา และคัดเลือกพนักงาน หรือผู้ฝึกงาน การปฏิบัติตามสัญญาการฝึกงาน การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ การวิเคราะห์ และการบริหารงานของบริษัทฯ และการปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ

2.1.9 สำหรับผู้ฝึกงาน มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เช่น

(ก) ข้อมูลเกี่ยวกับบิดามารดา หรือผู้ปกครอง เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

(ข) เลขบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการรับเงินค่าเบี้ยเลี้ยงฝึกงาน

(ค) ลักษณะของผู้ฝึกงาน และข้อมูลจาการฝึกงาน เช่น นิสัย ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความมีวินัย หรือลักษณะอื่นๆ รวมถึงการบันทึกเวลาเข้าออกการฝึกงาน และระยะเวลาในการฝึกงาน เพื่อประเมินผลการฝึกงาน

(ง) ข้อมูลอื่นๆ เช่น รายละเอียดของผู้แนะนำ ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

 

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)

2.2.1 บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

  • บริษัทฯ อาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง โรคประจำตัว ตาบอดสี ผลการตรวจร่างกาย ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา หมู่โลหิต ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการจ่ายยา ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล เพื่อการคุ้มครองแรงงาน การประเมินความสามารถในการทำงานของท่าน รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของท่าน หรือเพื่อการบริหารจัดการที่เหมาะสมอื่นๆ

(ข) ข้อมูลชีวภาพ เพื่อใช้ในการระบุ และยืนยันตัวตนของท่าน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น

(ค) ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงาน และรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น

(ง) ความเชื่อในลัทธิศาสนา ปรัชญา เชื้อชาติ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรม และสวัสดิการที่เหมาะสมกับพนักงาน รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน

(จ) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่านเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม และสวัสดิการของพนักงาน

2.2.3 ในกรณีที่จำเป็น บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน รวมทั้งการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านไปต่างประเทศ ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้บริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน

ซึ่งต่อไปในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับท่านข้างต้นรวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

3.1 การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)

เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ/ใบสมัครของท่านในการสมัครงาน สมัครฝึกงานกับบริษัทฯ เช่น การดำเนินการตามกระบวนการสรรหา การตรวจสอบคุณสมบัติ คัดเลือกก่อนการทำสัญญาจ้างพนักงาน รวมถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงการเข้าฝึกงาน การจ่ายค่าตอบแทนการฝึกงาน การได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการฝึกงาน

3.2 การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

เพื่อให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนด เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย

3.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ  หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เช่น การบันทึกเสียง การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหวกล้อง CCTV การยืนยันตัวตน การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับจากท่าน การวิเคราะห์ และจัดทำฐานข้อมูล การบริหารจัดการ และปรับปรุงกระบวนการสรรหา และคัดเลือกพนักงาน การประเมินผลการฝึกงาน การส่งข่าวสารที่เกี่ยวกับตำแหน่งงาน การจัดทำสัญญาฝึกงาน หรือสัญญาจ้างพนักงานในกรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือก การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

3.4 ความยินยอม (Consent)

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ เช่น การยินยอมให้ส่งข้อมูลการสมัครเข้าทำงาน หรือการสมัครเข้าฝึกงานของท่านให้แก่บริษัทในเครือ และหากท่านเป็นผู้เยาว์ ก่อนให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ โปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้บริษัทฯ ทราบ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของท่านด้วย

3.5 เพื่อป้องกัน และระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน หรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุม และการป้องกันโรค

3.6 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฎิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัทฯ

 

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่าน หรือฐานทางกฎหมายอื่นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เช่น ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ให้บริการภายนอกทั้งในประเทศ และต่างประเทศเกี่ยวกับกระบวนการสรรหา หรือคัดเลือกบุคลากร การจ้างงาน การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบประวัติ การทดสอบคุณสมบัติและความสามารถ หรือระบบสารสนเทศ ตัวแทนของบริษัทฯ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ สถาบันการเงิน คู่ธุรกิจ ผู้พัฒนาระบสารสนเทศ ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ผู้สนใจจะเข้ารับโอนสิทธิ และ/หรือผู้รับโอนสิทธิ หรือการควบรวมกิจการต่าง ๆ ของบริษัท นิติบุคคล หรือบุคคลใด ๆ ที่มีความสัมพันธ์ หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัทฯ บุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจ หรือให้บริการแก่ท่าน ซึ่งรวมตลอดถึงผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทฯ และของบุคคล หรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว

บริษัทฯ จะกำหนดให้ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

 

5. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ บริษัทฯ จึงอาจมีความจำเป็นต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทฯ เช่น การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน Server, Cloud ในประเทศต่าง ๆ

กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะดูแลการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกรณีที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมาตรการเยียวยาตามที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับตามที่กฎหมายประเทศนั้นกำหนด เช่น กำหนดให้ผู้รับข้อมูลมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับมาตรการของบริษัทฯ มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกัน บริษัทฯ อาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบ และรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการให้การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้

 

6. ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนด หรืออนุญาตไว้ เช่น กรณีที่ท่านไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพนักงาน บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี เพื่อเป็นหลักฐานว่าบริษัทฯ ได้พิจารณาคัดเลือกท่านอย่างยุติธรรม หรือตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้เพื่อการพิจารณา และติดต่อกับท่านในกรณีที่มีตำแหน่งงานอื่นที่บริษัทฯ เห็นว่าอาจเหมาะสมกับท่านในอนาคต

6.2 ระยะเวลาที่บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจแตกต่างกันไปตามกิจกรรมการประมวลผล

6.3 กรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือกเข้าเป็นพนักงาน หรือเข้าฝึกงาน บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปมีระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจ้างงานพนักงาน หรือการฝึกงานของท่าน

6.4 กรณีที่บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอมเพื่อให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้

6.5 บริษัทฯ จะลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม หรือสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

 

7. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจ หรือโดยไม่ชอบ และบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็น และเหมาะสม

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และมีความปลอดภัยตามมาตรการที่บริษัทฯ กำหนด เมื่อต้องมีการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น ดังนี้

8.1 สิทธิขอถอนความยินยอม

หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อท่าน ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษา และสอบถามถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นก่อนเพิกถอนความยินยอม

ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่น ท่านให้คำรับรองว่าท่านมีอำนาจกระทำการแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการรับทราบนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และในการให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

8.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของท่าน

8.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

8.4 สิทธิขอคัดค้าน

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่ละกรณี

8.5 สิทธิขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอม หรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็น และต้องลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน

8.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.8 สิทธิร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

8.9 การใช้สิทธิ

การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิ และยื่นคำร้องต่อ บริษัทฯ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธ หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย (โดยท่านเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลบังคับใช้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)

ระยะเวลาดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ โดยเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอ

สิทธิ ระยะเวลาดำเนินการ
สิทธิขอถอนความยินยอม 7 วัน
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
สิทธิขอคัดค้าน
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล 1 วัน

9. การติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ สามารถติดต่อบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ผ่านช่องทางดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เบอร์โทรศัพท์ 0-2242-4000 หรืออีเมล dpo@boonrawd.co.th

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

 

  1. ความสำคัญ และวัตถุประสงค์

บุญรอดบริวเวอรี่เคารพ และให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า คู่ค้าธุรกิจ พันธมิตรทางธุรกิจ พนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่ และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุญรอดบริวเวอรี่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบุคคลดังกล่าวจะได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างครบถ้วนตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คณะกรรมการบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด จึงอนุมัติให้ใช้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บุญรอดบริวเวอรี่มีหลักเกณฑ์ กลไก มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน ถูกต้อง และเหมาะสม

  1. ขอบเขตการบังคับใช้

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้บังคับกับบุญรอดบริวเวอรี่ พนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของบุญรอดบริวเวอรี่

 

  1. คำนิยาม

3.1 การประมวลผล (Processing) หมายถึง การดำเนินการใดๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลง ปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย

3.2 ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล รูปภาพ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ IP Address

3.3 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject) หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม

3.4 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) หมายถึง บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

3.5 ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) หมายถึง บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

3.6 บุญรอดบริวเวอรี่ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทซึ่งบริษัท                  บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ถือหุ้นไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Governance)

4.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อกำหนดวิธีการ และมาตรการที่เหมาะสมในการปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนี้

(1) กำหนดให้มีโครงสร้างองค์กร (Organizational Structure) รวมทั้งกำหนดบทบาท ภารกิจ และความรับผิดชอบของหน่วยงาน และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เพื่อสร้างกลไกการกำกับดูแล การควบคุม ความรับผิดชอบ การปฏิบัติงาน การบังคับใช้ และการติดตามมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(2) แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) โดยมีบทบาท และหน้าที่ตามที่กำหนดในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

4.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดทำนโยบาย (Policy) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

4.3 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการบริหารการปฏิบัติตามนโยบาย (Policy Management Process) เพื่อควบคุมดูแลให้มีการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่อย่างต่อเนื่อง

4.4 บุญรอดบริวเวอรี่จะดำเนินการฝึกอบรมพนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และทำให้มั่นใจได้ว่าพนักงานที่เกี่ยวข้องทุกคนผ่านการฝึกอบรม และมีความรู้ความเข้าใจในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Processing)

5.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นธรรม โปร่งใส และคำนึงถึงความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ การกำหนดขอบเขตวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ให้ทำได้เท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย และแนวทางการดำเนินธุรกิจของบุญรอดบริวเวอรี่ อีกทั้งบุญรอดบริวเวอรี่จะดำเนินการรักษาความลับ ความถูกต้องสมบูรณ์ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ

5.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการ และการควบคุมเพื่อบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในทุกขั้นตอนให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่โดยจะจัดให้มีนโยบายการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Retention Policy)

5.3 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดทำ และรักษาบันทึกการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Records of Processing: RoP) สำหรับบันทึกรายการ และกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฏหมาย รวมทั้งจะปรับปรุงบันทึกการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรายการ หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

5.4 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการที่ชัดเจนเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการแจ้งวัตถุประสงค์      การเก็บรวบรวม และรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notices) สอดคล้องกับกฎหมาย และจะจัดให้มีขั้นตอนปฏิบัติการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Consent Management Procedure) รวมทั้งจัดให้มีมาตรการดูแล และตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว

5.5 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีนโยบายการทำข้อตกลง หรือสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Outsourcing Policy for Personal Data Processing) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย และสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ                 บุญรอดบริวเวอรี่

5.6 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกลไกการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งจัดให้มีกลไกการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

5.7 ในกรณีที่บุญรอดบริวเวอรี่ส่ง โอน หรือให้บุคคลอื่นใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดทำข้อตกลงกับผู้ที่รับ หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเพื่อกำหนดสิทธิ และหน้าที่ให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ หรือกรณีที่บุญรอดบริวเวอรี่ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บุญรอดบริวเวอรี่จะปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมาย โดยจะจัดให้มีนโยบายการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานภายนอก หรือการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานในต่างประเทศ  (Third Parties/Cross Border Data Transfer Policy)

5.8 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีนโยบายการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนด (Personal Data Disposal Policy) ซึ่งจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อครบกำหนดระยะเวลา โดยปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมาย และแนวทางการดำเนินธุรกิจของบุญรอดบริวเวอรี่

5.9 บุญรอดบริวเวอรี่จะประเมินความเสี่ยง และจัดทำมาตรการเพื่อบรรเทาความเสี่ยง และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการรองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Rights)

6.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีมาตรการ ช่องทาง และวิธีการเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้สิทธิของตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งจะดำเนินการบันทึก และประเมินผลการตอบสนองต่อคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

6.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีขั้นตอนปฏิบัติต่อคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Request Procedure) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคำขอใช้สิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Security)

7.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ รวมทั้งดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล และการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

7.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีขั้นตอนปฏิบัติในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Breach Management Procedure) เพื่อให้สามารถระบุ และจัดการกับเหตุการณ์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างทันท่วงที

7.3 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงเจ้าพนักงานของรัฐ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (ในกรณีที่บุญรอดบริวเวอรี่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกัน) และบุคคลอื่นให้สอดคล้องกับกฎหมาย

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการกำกับให้เกิดการปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Compliance)

8.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการติดตามในกรณีที่กฎหมายเปลี่ยนแปลงไป และปรับปรุงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกฎหมายอยู่เสมอ

8.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีการทบทวน และปรับปรุงนโยบาย (Policy) มาตรฐานปฏิบัติงาน(Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ เพื่อให้ทันสมัยสอดคล้องกับกฎหมาย และสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา

 

  1. บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ

9.1 คณะกรรมการบริษัท มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

(1) กำกับให้เกิดโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้องของบุญรอดบริวเวอรี่ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(2) กำกับดูแล และสนับสนุนให้บุญรอดบริวเวอรี่ดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับกฎหมาย

9.2 คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูล (Data Governance) คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูลที่คณะกรรมการบริษัทแต่งตั้งขึ้นมีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

(1) จัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนโยบาย (Policy) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(2) ประเมินประสิทธิภาพการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ         บุญรอดบริวเวอรี่ และรายงานผลการประเมินดังกล่าวให้คณะกรรมการบริษัททราบเป็นประจำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี รวมถึงควบคุมดูแลให้มั่นใจได้ว่าความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการจัดการ และมีแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

(3) กำหนด และทบทวนมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) และแนวปฏิบัติ (Guidelines) เพื่อให้การดำเนินงานของบุญรอดบริวเวอรี่สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(4) เสนอรายชื่อบุคคลให้กรรมการผู้จัดการใหญ่แต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)

9.3 ผู้บริหาร มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบในการติดตามควบคุมให้หน่วยงานที่ตนดูแลปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ และส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นกับพนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่

9.4 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงหน้าที่ดังต่อไปนี้

(1) รายงานสถานะการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูลทราบอย่างสม่ำเสมอ และจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกฎหมายอยู่เสมอ

(2) ให้คำแนะนำพนักงาน และหน่วยงานต่างๆ ของบุญรอดบริวเวอรี่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(3) ตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของบุญรอดบริวเวอรี่ ให้เป็นไปตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

9.5 พนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่ มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

(1) ปฏิบัติให้สอดคล้องกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่  มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(2) รายงานเหตุการณ์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

 

  1. โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่อาจมีความผิด และถูกลงโทษทางวินัย รวมทั้งอาจได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

 

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

สำหรับผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน, ผู้สมัครเข้าฝึกงาน และผู้ฝึกงาน

 

          บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอก บริษัทฯ จึงยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัทฯ เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน, ผู้สมัครเข้าฝึกงาน และผู้ฝึกงาน (รวมเรียกว่า “ท่าน”) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ และรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

 

1. นิยาม

บริษัทฯ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัทซึ่งมีรายชื่อตามลิงค์นี้ https://www.boonrawd.co.th
พนักงาน หมายถึง พนักงานของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
ผู้ดูแลระบบงาน หมายถึง หน่วยงาน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของระบบงาน หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของระบบงาน หมายถึง ผู้บริหารของฝ่ายงานทางธุรกิจ หรือผู้บริหารที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อระบบงานหนึ่ง ๆ
ผู้เยาว์

 

 

เจ้าของข้อมูล

ส่วนบุคคล

หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ยกเว้นบุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์แต่ได้ทำการสมรสตามกฎหมายอันมีผลให้เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งมีความหมายในลักษณะเป็นบุคคลที่ข้อมูลนั้นชี้บ่งไปถึง ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นคนสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล รูป ลายนิ้วมือ รหัสประชาชน ซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางตรง หรือการเก็บ Location หรือ Cookie ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางอ้อม นอกจากนี้รวมถึงข้อมูลที่โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถนำไประบุตัวบุคคลได้แต่เมื่อนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นแล้วก่อให้เกิดชุดข้อมูลที่สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น ที่อยู่ เพศ และอายุ เมื่อนำมารวมกันสามารถนำไประบุตัวบุคคลได้ก็จะเกิดเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

 

 

 

 

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพ หรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า (Face Recognition) ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบจัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
แอปพลิเคชั่น หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดยแอพพลิเคชั่น (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่าส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่าง ๆ

 

 

 

คุกกี้ (Cookie) หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว
ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดทำข้อมูลนิรนามแล้ว

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ได้แก่

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้แก่บริษัทฯ โดยตรง และข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับ หรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น หน่วยงานของรัฐ, บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน, สถาบันการเงิน, ผู้ให้บริการทางการเงิน, พันธมิตรทางธุรกิจ, บริษัทข้อมูลเครดิต และผู้ให้บริการข้อมูล เป็นต้น โดยบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่บริษัทฯ มีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต
  • ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในใบสมัคร

(ก) ข้อมูลตามเอกสารที่ท่านส่งมอบให้บริษัทฯ เช่น Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายสมัครงาน ใบสมัครงาน ความเห็นประกอบการสรรหาพนักงาน

(ข) ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด น้ำหนัก ส่วนสูง สถานที่เกิด สถานภาพสมรส สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง ความเป็นพลเมือง เลขที่ใบขับขี่ สถานภาพการเกณฑ์ทหาร ใบอนุญาตต่าง ๆ

(ค) ข้อมูลในการติดต่อกับท่าน เช่น ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์ รวมถึงข้อมูลในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ

(ง) เงื่อนไขในการปฏิบัติงาน เช่น สามารถปฏิบัติงานต่างจังหวัดได้หรือไม่ พื้นที่ที่ต้องการปฏิบัติงาน

(จ) ข้อมูลของคู่สมรส บุตร บิดามารดา เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน สัญชาติ  หมายเลขโทรศัพท์ ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

(ฉ) รูปถ่าย และภาพเคลื่อนไหว

(ช) ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของท่าน เช่น ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา สถาบัน/มหาวิทยาลัย ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ผลการศึกษา ผลการทดสอบ สิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางด้านภาษา และความสามารถอื่นๆ ข้อมูลจากการอ้างอิงที่ท่านได้ให้แก่บริษัท

(ซ) ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงาน และข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต เช่น ประวัติการทำงาน ตำแหน่งงาน รายละเอียดของนายจ้าง เงินเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการที่ได้รับ

(ฌ) ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่ปฏิบัติงานได้

(ญ) ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ

(ฎ) รายละเอียดของบุคคลที่ท่านอ้างถึง และรายละเอียดของผู้ที่บริษัทสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

2.1.3 ข้อมูลจากการทำแบบทดสอบข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของท่าน เช่น นิสัย ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความผูกพันต่อองค์กร ซึ่งอาจได้มาจากการสังเกตุ และวิเคราะห์ของบริษัทฯ ในระหว่างที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทฯ

2.1.4 ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานให้หน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน

2.1.5 ข้อมูลที่รวบรวมจากท่าน เช่น ข้อมูลที่ท่านระบุ หรือให้ไว้แก่บริษัทฯ ข้อมูลที่ท่านแจ้งแก่บริษัทฯ ในระหว่างการสัมภาษณ์งาน ข้อมูลของท่านจากการทำแบบทดสอบต่างๆ ข้อมูลที่ท่านให้ไว้ในการเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทฯ

2.1.6 ข้อมูลที่ท่านเลือกจะแบ่งปัน และเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชั่น เครื่องมือ แบบสอบถาม แบบประเมิน และบริการต่างๆ ของบริษัทฯ

2.1.7 สำเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่าน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับรถ เอกสารที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน เช่น ประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร วุฒิบัตร ใบแสดงผลการศึกษา

2.1.8 ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการสรรหา และคัดเลือกพนักงาน หรือผู้ฝึกงาน การปฏิบัติตามสัญญาการฝึกงาน การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ การวิเคราะห์ และการบริหารงานของบริษัทฯ และการปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ

2.1.9 สำหรับผู้ฝึกงาน มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เช่น

(ก) ข้อมูลเกี่ยวกับบิดามารดา หรือผู้ปกครอง เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

(ข) เลขบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการรับเงินค่าเบี้ยเลี้ยงฝึกงาน

(ค) ลักษณะของผู้ฝึกงาน และข้อมูลจาการฝึกงาน เช่น นิสัย ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความมีวินัย หรือลักษณะอื่นๆ รวมถึงการบันทึกเวลาเข้าออกการฝึกงาน และระยะเวลาในการฝึกงาน เพื่อประเมินผลการฝึกงาน

(ง) ข้อมูลอื่นๆ เช่น รายละเอียดของผู้แนะนำ ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

 

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)

2.2.1 บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

  • บริษัทฯ อาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง โรคประจำตัว ตาบอดสี ผลการตรวจร่างกาย ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา หมู่โลหิต ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการจ่ายยา ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล เพื่อการคุ้มครองแรงงาน การประเมินความสามารถในการทำงานของท่าน รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของท่าน หรือเพื่อการบริหารจัดการที่เหมาะสมอื่นๆ

(ข) ข้อมูลชีวภาพ เพื่อใช้ในการระบุ และยืนยันตัวตนของท่าน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น

(ค) ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงาน และรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น

(ง) ความเชื่อในลัทธิศาสนา ปรัชญา เชื้อชาติ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรม และสวัสดิการที่เหมาะสมกับพนักงาน รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน

(จ) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่านเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม และสวัสดิการของพนักงาน

2.2.3 ในกรณีที่จำเป็น บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน รวมทั้งการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านไปต่างประเทศ ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้บริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน

ซึ่งต่อไปในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับท่านข้างต้นรวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

3.1 การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)

เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ/ใบสมัครของท่านในการสมัครงาน สมัครฝึกงานกับบริษัทฯ เช่น การดำเนินการตามกระบวนการสรรหา การตรวจสอบคุณสมบัติ คัดเลือกก่อนการทำสัญญาจ้างพนักงาน รวมถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงการเข้าฝึกงาน การจ่ายค่าตอบแทนการฝึกงาน การได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการฝึกงาน

3.2 การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

เพื่อให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนด เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย

3.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ  หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เช่น การบันทึกเสียง การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหวกล้อง CCTV การยืนยันตัวตน การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับจากท่าน การวิเคราะห์ และจัดทำฐานข้อมูล การบริหารจัดการ และปรับปรุงกระบวนการสรรหา และคัดเลือกพนักงาน การประเมินผลการฝึกงาน การส่งข่าวสารที่เกี่ยวกับตำแหน่งงาน การจัดทำสัญญาฝึกงาน หรือสัญญาจ้างพนักงานในกรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือก การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

3.4 ความยินยอม (Consent)

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ เช่น การยินยอมให้ส่งข้อมูลการสมัครเข้าทำงาน หรือการสมัครเข้าฝึกงานของท่านให้แก่บริษัทในเครือ และหากท่านเป็นผู้เยาว์ ก่อนให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ โปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้บริษัทฯ ทราบ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของท่านด้วย

3.5 เพื่อป้องกัน และระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน หรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุม และการป้องกันโรค

3.6 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฎิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัทฯ

 

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่าน หรือฐานทางกฎหมายอื่นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เช่น ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ให้บริการภายนอกทั้งในประเทศ และต่างประเทศเกี่ยวกับกระบวนการสรรหา หรือคัดเลือกบุคลากร การจ้างงาน การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบประวัติ การทดสอบคุณสมบัติและความสามารถ หรือระบบสารสนเทศ ตัวแทนของบริษัทฯ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ สถาบันการเงิน คู่ธุรกิจ ผู้พัฒนาระบสารสนเทศ ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ผู้สนใจจะเข้ารับโอนสิทธิ และ/หรือผู้รับโอนสิทธิ หรือการควบรวมกิจการต่าง ๆ ของบริษัท นิติบุคคล หรือบุคคลใด ๆ ที่มีความสัมพันธ์ หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัทฯ บุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจ หรือให้บริการแก่ท่าน ซึ่งรวมตลอดถึงผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทฯ และของบุคคล หรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว

บริษัทฯ จะกำหนดให้ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

 

5. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ บริษัทฯ จึงอาจมีความจำเป็นต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทฯ เช่น การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน Server, Cloud ในประเทศต่าง ๆ

กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะดูแลการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกรณีที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมาตรการเยียวยาตามที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับตามที่กฎหมายประเทศนั้นกำหนด เช่น กำหนดให้ผู้รับข้อมูลมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับมาตรการของบริษัทฯ มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกัน บริษัทฯ อาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบ และรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการให้การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้

 

6. ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนด หรืออนุญาตไว้ เช่น กรณีที่ท่านไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพนักงาน บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี เพื่อเป็นหลักฐานว่าบริษัทฯ ได้พิจารณาคัดเลือกท่านอย่างยุติธรรม หรือตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้เพื่อการพิจารณา และติดต่อกับท่านในกรณีที่มีตำแหน่งงานอื่นที่บริษัทฯ เห็นว่าอาจเหมาะสมกับท่านในอนาคต

6.2 ระยะเวลาที่บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจแตกต่างกันไปตามกิจกรรมการประมวลผล

6.3 กรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือกเข้าเป็นพนักงาน หรือเข้าฝึกงาน บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปมีระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจ้างงานพนักงาน หรือการฝึกงานของท่าน

6.4 กรณีที่บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอมเพื่อให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้

6.5 บริษัทฯ จะลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม หรือสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

 

7. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจ หรือโดยไม่ชอบ และบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็น และเหมาะสม

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และมีความปลอดภัยตามมาตรการที่บริษัทฯ กำหนด เมื่อต้องมีการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น ดังนี้

8.1 สิทธิขอถอนความยินยอม

หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อท่าน ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษา และสอบถามถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นก่อนเพิกถอนความยินยอม

ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่น ท่านให้คำรับรองว่าท่านมีอำนาจกระทำการแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการรับทราบนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และในการให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

8.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของท่าน

8.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

8.4 สิทธิขอคัดค้าน

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่ละกรณี

8.5 สิทธิขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอม หรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็น และต้องลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน

8.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.8 สิทธิร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

8.9 การใช้สิทธิ

การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิ และยื่นคำร้องต่อ บริษัทฯ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธ หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย (โดยท่านเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลบังคับใช้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)

ระยะเวลาดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ โดยเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอ

สิทธิ ระยะเวลาดำเนินการ
สิทธิขอถอนความยินยอม 7 วัน
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
สิทธิขอคัดค้าน
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล 1 วัน

9. การติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ สามารถติดต่อบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ผ่านช่องทางดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เบอร์โทรศัพท์ 0-2242-4000 หรืออีเมล dpo@boonrawd.co.th

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) สำหรับลูกค้า

 

            บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอก บริษัทฯ จึงยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าลูกค้าของบริษัทฯ ได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อจัดให้มีวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมสำหรับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทฯ ทำการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนกฎหมาย และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

1. นิยาม

บริษัทฯ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัทซึ่งมีรายชื่อตามลิงค์นี้ https://www.boonrawd.co.th
ผู้ใช้บริการ หมายถึง บุคคล หรือนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้าใช้บริการ    ต่าง ๆ ของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
ผู้มีอำนาจอนุมัติ หมายถึง ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ ให้มีอำนาจในการอนุมัติใด ๆ ภายใต้ขอบเขตอำนาจที่ได้รับจากบริษัทฯ
ผู้ดูแลระบบงาน หมายถึง หน่วยงาน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของระบบงาน หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของระบบงาน หมายถึง ผู้บริหารของฝ่ายงานทางธุรกิจ หรือผู้บริหารที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของข้อมูล

ส่วนบุคคล

หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งมีความหมายในลักษณะเป็นบุคคลที่ข้อมูลนั้นชี้บ่งไปถึง ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นคนสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา
ผู้เยาว์ หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ยกเว้นบุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์แต่ได้ทำการสมรสตามกฎหมายอันมีผลให้เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
คนไร้ความสามารถ หมายถึง บุคคลวิกลจริตที่ไม่สามารถดูแลตัวเอง หรือผลประโยชน์ของตัวเองได้ ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
คนเสมือนไร้ความสามารถ หมายถึง บุคคลที่มีกายพิการ หรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือประพฤติสุรุ่ยสุร่ายเสเพลเป็นอาจิณ หรือติดสุรายาเมา หรือเหตุอื่นใดทำนองเดียวกันจนไม่สามารถจัดทำการงานโดยตนเองได้ หรือจัดกิจการไปในทางที่เสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเอง หรือครอบครัว ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ และอยู่ในความดูแลของผู้พิทักษ์ที่ศาลแต่งตั้ง

 

 

 

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล รูป ลายนิ้วมือ รหัสประชาชน ซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางตรง หรือการเก็บ Location หรือ Cookie ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางอ้อม นอกจากนี้ รวมถึงข้อมูลที่โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถนำไประบุตัวบุคคลได้แต่เมื่อนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นแล้วก่อให้เกิดชุดข้อมูลที่สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น ที่อยู่ เพศ และอายุ เมื่อนำมารวมกันสามารถนำไประบุตัวบุคคลได้ก็จะเกิดเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพ หรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า (Face Recognition) ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เปิดเผยต่อสาธารณชน เช่น ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูล และรหัสการเข้าระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Credential) เช่น Facebook, Twitter, Line เพื่อเชื่อมต่อ หรือเข้าสู่บริการ  ใด ๆ ของบริษัทฯ เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Account ID) สิ่งที่สนใจ (Interests) รายการที่ชอบ (Likes) และรายชื่อเพื่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว

 

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือชุดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลง หรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
แอปพลิเคชัน หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดย แอปพลิเคชัน (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่าง ๆ
IP Address

 

 

คุกกี้ (Cookie)

หมายถึง สัญลักษณ์เชิงหมายเลขที่กำหนดให้แก่อุปกรณ์แต่ละชนิด เช่นคอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องพิมพ์ที่มีส่วนร่วมอยู่ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่ง ๆ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตโพรโทคอลในการสื่อสาร

หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว

สำนักงาน หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

 

2. บทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบ

2.1 คณะกรรมการบริษัทฯ มีหน้าที่กำกับดูแลให้มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย และกฎเกณฑ์ของราชการ

2.2 คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูล (Data Governance) ได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการ บริษัทฯ ให้มีหน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

2.2.1 จัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนโยบาย (Policy) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.2.2 กำหนด และทบทวนนโยบาย มาตรฐานการปฏิบัติงาน แนวปฏิบัติ และขั้นตอนปฏิบัติเพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทฯ สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ

2.2.3 ให้ข้อเสนอแนะ และพิจารณากลั่นกรองวัตถุประสงค์ นโยบาย แผนงาน แนวปฏิบัติ กระบวนการ และเอกสารที่เกี่ยวข้องด้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

2.2.4 ประเมินประสิทธิภาพการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ และรายงานผลการประเมินดังกล่าวให้คณะกรรมการบริษัทฯ ทราบเป็นประจำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี

2.2.5 แต่งตั้ง หรือปรับเปลี่ยนคณะทำงานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูลได้ตามความเหมาะสม

2.2.6 กำกับดูแลการดำเนินงานของคณะทำงานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

2.2.7 เชิญหน่วยงาน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจง หรือให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานได้

2.2.8 กำกับดูแลการปฏิบัติตามนโยบาย และมีอำนาจอนุมัติการเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือทบทวนนโยบายนี้

2.3 ผู้บริหารมีหน้าที่ และความรับผิดชอบในการจัดการ ติดตาม และควบคุมให้หน่วยงานที่ตนดูแลปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ รวมถึงจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิผล

2.4 พนักงานมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้ ระเบียบปฏิบัติ และคำสั่งของบริษัทฯ รวมถึงกฎหมาย และกฎเกณฑ์ของราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด

3. บททั่วไป

ข้อกำหนดทั่วไป

3.1 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ครอบคลุมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา

3.2 บริษัทฯ กำหนดให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) มีหน้าที่ดำเนินการทบทวนนโยบายฉบับนี้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญต่อการปฏิบัติงานตามนโยบายฉบับนี้พร้อมเสนอให้คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูล (Data Governance) ของบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติ และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ บริษัทฯ จะประกาศให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ https://www.boonrawd.co.th

3.3 บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะนั้น เว้นแต่บริษัทฯ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หรือมีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ ดังนี้

3.3.1 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา

3.3.2 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

3.3.3 เป็นการจำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่เกินขอบเขตที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุผล

3.3.4 เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ

3.3.5 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต

3.3.6 เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ

3.4 บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย และแจ้งรายละเอียดในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลทราบตามที่กฎหมายกำหนด

 

3.5 บริษัทฯ ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม เว้นแต่มีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ทางราชการที่ทำให้บริษัทฯ ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป

3.6 บริษัทฯ มีการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย รวมถึงคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล

4. การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

4.1 การขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ต้องดำเนินการอย่างชัดแจ้งเป็นหนังสือ หรือทำโดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่โดยสภาพไม่อาจขอความยินยอมด้วยวิธีดังกล่าวได้ การขอความยินยอมด้วยวิธีอื่นจะต้องมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้แสดงเจตนาให้ความยินยอม

4.2 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับการแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่หลอกลวง หรือทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใจผิดในวัตถุประสงค์ และคำนึงอย่างที่สุดในความเป็นอิสระของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการให้ความยินยอม

4.3 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส หรือไม่มีฐานะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ให้ขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์

4.4 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคนไร้ความสามารถ ให้ขอความยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถ

4.5 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ ให้ขอความยินยอมจากผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ

4.6 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้มีอำนาจตามข้อ 4.3, 4.4, 4.5 ต้องการถอนความยินยอมที่เคยให้ไว้ ให้ดำเนินการตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลขอโดยง่ายเช่นเดียวกับการให้ความยินยอม และหากการถอนความยินยอมส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในเรื่องใด ให้แจ้งถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้นให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ

4.7 บริษัทฯ ต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้จะทำไม่ได้ เว้นแต่ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยได้รับความยินยอมก่อนเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยแล้ว

 

5. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ในการดำเนินงานของบริษัทฯ ในด้านต่าง ๆ ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ของราชการ

5.2 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ให้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อน หรือในขณะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้

5.2.1 วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมเพื่อการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ หรือเปิดเผย

5.2.2 ความจำเป็นที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อเข้าทำสัญญา และผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

5.2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีการเก็บรวบรวม และระยะเวลาในการเก็บรวบรวมไว้

5.2.4 ประเภทของบุคคล หรือหน่วยงานที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงรายชื่อของบุคคล หรือหน่วยงานดังกล่าว (ตามแต่กรณี)

5.2.5 สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย

5.2.6 ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สถานที่ติดต่อ และวิธีการติดต่อ

5.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมต้องถูกต้องครบถ้วนตามข้อเท็จจริงที่ได้รับแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน

5.4 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ให้ดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่มีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ และต้องขออนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติทุกครั้งก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

5.5 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ต้องแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่มีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ โดยขออนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติ

5.6 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีการบันทึกรายละเอียดวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูล สิทธิ และวิธีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและเงื่อนไขเกี่ยวกับบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือสำนักงานสามารถตรวจสอบได้

 

6. การเข้าถึง และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 พนักงานของบริษัทฯ สามารถเข้าถึง หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้เท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติงาน และตามสิทธิที่บริษัทฯ กำหนด หากพนักงานของบริษัทฯ มีความจำเป็นในการปฏิบัติงานที่ต้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเกินกว่าสิทธิที่บริษัทฯ กำหนด ต้องดำเนินการขออนุมัติจากผู้มีอำนาจ

6.2 พนักงานของบริษัทฯ ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอมเท่านั้น เว้นแต่มีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ

6.3 ผู้ดูแลระบบงาน และเจ้าของระบบงานต้องอนุญาตให้พนักงานของบริษัทฯ เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้เฉพาะพนักงานของบริษัทฯ ที่มีสิทธิตามที่กำหนด หรือได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติ

 

7. วิธีที่ได้มา

บริษัทฯ มีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยกระบวนการต่อไปนี้

7.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง

7.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทในเครือ

7.3 ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่สาม เช่น ตัวแทน ร้านค้า หรือบริษัทที่ให้การบริการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล คู่ค้า พันธมิตร เป็นต้น

7.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เช่น ชื่อของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และที่อยู่ไอพี (IP Address) ผ่านการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต วันที่ และเวลาของการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หน้าเพจที่เข้าเยี่ยมชมขณะเข้าเว็บไซต์ และที่อยู่ของเว็บไซต์ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับเว็บไซต์ของบริษัทฯ

7.5 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากข้อมูลสาธารณะ (Public Records) และที่ไม่ใช่สาธารณะ           (Non-Public Records) ที่บริษัทฯ มีสิทธิเก็บรวบรวมได้ตามกฎหมาย

7.6 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแลที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย

 

8. การเปิดเผย และการรับข้อมูลส่วนบุคคล

8.1 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคล หรือองค์กรภายนอกบริษัทฯ ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และต้องได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ของราชการ

บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในเครือ บุคคลภายนอก และ/หรือองค์กร หรือหน่วยงานภายนอกเฉพาะในกรณี ดังต่อไปนี้

8.1.1 ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นคนกลาง ได้แก่ บริษัทขนส่ง บริษัทที่ให้บริการในการจัดเก็บข้อมูล และรวบรวมข้อมูล บริษัทรับพัฒนา และบำรุงรักษาระบบในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ

8.1.2 คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทย่อย และ/หรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อให้บริการในการนำเสนอสิทธิประโยชน์ และบริการอื่น ๆ ของบริษัทฯ แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการพัฒนา ปรับปรุง ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัทฯ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาแพลตฟอร์มบริการลูกค้า การส่งอีเมล/SMS การพัฒนาเว็บไซต์ การพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ การสำรวจความพึงพอใจ และการทำวิจัย  การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยจะมีการทำสัญญารักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ กรณีนิติบุคคลจะต้องมีมาตรฐานด้านความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ

8.1.3 หน่วยงานรัฐบาล รัฐบาล หรือองค์กรอื่นตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง คำร้องขอ เพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย

8.2 การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคล หรือองค์กรภายนอกบริษัทฯ ต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ และต้องได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ของราชการ

บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับจากการให้บริการ หรือการดำเนินงานของบริษัทฯ ผ่านทุกช่องทางซึ่งรวมถึงช่องทางดังต่อไปนี้

8.2.1 ข้อมูลที่ได้รับเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทำการลงทะเบียน หรือกรอกใบสมัครขอเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ หรือการใช้บริการอื่น ๆ ของบริษัทฯ เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวอื่น ๆ หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ อีเมล เป็นต้น

8.2.2 ข้อมูลจากการสมัครสมาชิก หรือเข้าร่วมกิจกรรม ข้อมูลในการสร้างบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ที่ถูกสร้าง   โปรไฟล์ที่ประกอบด้วยรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัทฯ เพื่อการเข้าใช้บริการในช่องทางการให้บริการของบริษัทฯ อาทิ แอปพลิเคชันการใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ และ/หรือผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้แก่ บัญชีออนไลน์ หรือบัญชีของแอปพลิเคชันที่ให้บริการของบริษัทฯ ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้เพื่อทำการสมัครต่าง ๆ ได้แก่ สมัครเข้าร่วมกิจกรรม และ/หรือติดต่อกับบริษัทฯ ผ่านทางเว็บไซต์หรือทางช่องทางอื่น ๆ ตามที่บริษัทฯ กำหนด

8.2.3 ข้อมูลการสมัครรับข่าวสารต่าง ๆ จากการทำแบบสำรวจ หรือข้อมูลการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ความพึงพอใจ ความสนใจ หรือพฤติกรรมการบริโภค เป็นต้น

8.2.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมกับบริษัทฯ หรือกับบริษัทย่อย หรืออื่น ๆ เช่น ข้อมูลการสมัครงาน ข้อมูลการสมัครเป็นตัวแทน ข้อมูลเพื่อการเข้าเสนอราคา ซึ่งรวมถึงข้อมูลบัตรเครดิต หรือ      บัตรเดบิต หมายเลขบัญชีธนาคาร หรือข้อมูลเกี่ยวกับธนาคาร หรือการชำระเงินอื่น ๆ รวมทั้งวันที่ และเวลาที่ชำระเงิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของการทำธุรกรรมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

8.2.5 ข้อมูลจากการเข้าชม หรือใช้เว็บไซต์ของบริษัทฯ เว็บไซต์อื่น ๆ ของบริษัทย่อย หรือ        แอปพลิเคชันของบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการ ข้อมูลการใช้ Social Media และการโต้ตอบกับโฆษณาออนไลน์ของบริษัทฯ รุ่น และประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดเข้าชมเว็บไซต์ ประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อเข้าถึงการบริการ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Laptop หรือสมาร์ทโฟน ข้อมูลประเภทระบบปฏิบัติการ และแพลตฟอร์ม ที่อยู่ IP address ของอุปกรณ์ หรือเครื่องมือปลายทาง ข้อมูล Location ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการ และผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าชม หรือค้นหา

8.2.6 ข้อมูลจากบันทึกการติดต่อของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ ซึ่งเก็บในรูปแบบของบันทึกข้อความของผู้รับบริการ การประเมินความพึงพอใจ การวิจัยและสถิติ หรือการบันทึกเสียงสนทนา หรือการบันทึกภาพผ่านกล้อง CCTV เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อกับบริษัทฯ เช่น ศูนย์บริการลูกค้าของบริษัทฯ รวมไปถึงการให้ข้อมูลผ่านสื่อที่ทำการวิจัยต่าง ๆ อาทิ SMS Social Media แอปพลิเคชัน หรือ อีเมล เป็นต้น

8.2.7 ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูล และรหัสการเข้าสู่ระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Credential) เช่น Facebook, Twitter, Line เพื่อเชื่อมต่อ หรือเข้าสู่บริการ ใด ๆ ของบริษัทฯ เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Account ID) สิ่งที่สนใจ (Interests) รายการที่ชอบ (Likes) และรายชื่อเพื่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว

8.3 กรณีที่บริษัทฯ ให้บุคคล หรือองค์กรภายนอกบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแทนบริษัทฯ (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ต้องใช้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเทียบเท่ามาตรฐานของบริษัทฯ ตามนโยบายความมั่นคงปลอดภัยในการบริหารจัดการผู้ให้บริการภายนอกด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และต้องจัดให้มีข้อตกลงระหว่างกันเพื่อควบคุมการดำเนินงานของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายโดยกำหนดวัตถุประสงค์ หรือคำสั่งในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน  และกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทฯ นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ หรือคำสั่งที่บริษัทฯ กำหนด

 

9. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

ในกรณีที่บริษัทฯ มีการโอน ถ่าย และ/หรือส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือสัญญาร่วมธุรกิจกับหน่วยงาน องค์กรที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย อาทิเช่น

9.1 กรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นในการจัดเก็บ และ/หรือโอน ถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการจัดเก็บ

9.2 การประมวลผลในระบบคลาวด์ (Cloud) บริษัทฯ จะพิจารณาองค์กรที่มีมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยในระดับสากล และจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบการเข้ารหัส หรือวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เป็นต้น

อนึ่ง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลภายนอกที่บริษัทฯ จะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้จากเว็บไซต์ของบริษัทฯ ทั้งนี้รายชื่อบุคคลภายนอกที่บริษัทฯ จะทำการเปิดข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจมีการเพิ่มขึ้น หรือลดลงได้ซึ่งบริษัทฯ จะทำข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเสมอ

 

10. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย และความลับของข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความมั่นใจในการบริหารจัดการของบริษัทฯ ในการป้องกันความเสี่ยงอันอาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเข้าถึงโดยมิชอบ รั่วไหล ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข สูญหาย บริษัทฯ ถือปฏิบัติตามนโยบายความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศ รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศที่เป็นที่ยอมรับ และการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

บริษัทฯ มีมาตรการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะกำหนดให้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัทฯ เพื่อการให้บริการของบริษัทฯ เช่น พนักงานบริษัทฯ ซึ่งเป็นบุคคลที่บริษัทฯ อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะต้องยึดมั่น และปฏิบัติตามมาตรการการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยบริษัทฯ มีมาตรการป้องกันทั้งทางกายภาพ และทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่บังคับใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อบริษัทฯ ทำสัญญา หรือข้อตกลงกับบุคคลที่สาม บริษัทฯ จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ครอบครองจะความปลอดภัย

11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังต่อไปนี้

11.1 สิทธิในการขอรับทราบความมีอยู่ ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ของบริษัทฯ

11.2 สิทธิในการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตน ซึ่งบริษัทฯ จะมีขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อให้ท่านยืนยันตัวตนกับทางบริษัทฯ ก่อน

11.3 สิทธิในการขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

11.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน รวมถึงสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

11.5 สิทธิในการขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเป็นการชั่วคราว

11.6 สิทธิในการขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

11.7 สิทธิในการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งผู้ใช้บริการไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวม หรือจัดเก็บ

11.8 สิทธิในการถอนความยินยอมที่เคยให้แก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดช่องทางการติดต่อเพื่อใช้สิทธิของท่านตามรายละเอียดในข้อ 18 โดยบริษัทฯ จะดำเนินการ และพิจารณาตามที่ท่านร้องขอภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้อง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ สามารถปฏิเสธการดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด  หรือตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯ กรณีที่จะทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเสียสิทธิประโยชน์     ต่าง ๆ

อนึ่ง การลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้  หรือการยกเลิกความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถทำได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯ เท่านั้น ทั้งนี้การใช้สิทธิดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อกรณีการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯ หรือกรณีการให้บริการอื่น ๆ เนื่องจากจะไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ จึงอาจเกิดข้อจำกัดในการให้บริการในบางส่วนที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และอาจทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ได้รับสิทธิประโยชน์การบริการ และข่าวสารจากบริษัทฯ ต่อไป

 

12. ระยะเวลาจัดเก็บ และสถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ และความจำเป็นที่บริษัทฯ จะต้องดำเนินการจัดเก็บรวบรวม และประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่เจ้าของข้อมูลไม่มีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทฯ ระยะเวลาหนึ่ง และสอดคล้องตามระยะเวลา และอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นต้น

 

13. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด

นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น และภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่าง ๆ ทางไปรษณีย์ อีเมล และด้วยวิธีการอื่นใด รวมถึงการดำเนินการด้านการตลาดแบบตรง  เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับจากการเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ผ่านการแนะนำผลิตภัณฑ์ และบริการที่เกี่ยวข้อง

ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับการสื่อสารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดจากบริษัทฯ ยกเว้นการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูล และ/หรือบริการที่บริษัทฯ ได้ให้แก่ท่าน เช่น ใบเสร็จรับเงิน       เป็นต้น

 

14. คุกกี้

บริษัทฯ จะใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเก็บข้อมูล และรวบรวมสถิติ วิจัย วิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชัน ทั้งนี้การเก็บคุกกี้นั้นเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

 

15. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ภายนอก

เว็บไซต์ของบริษัทฯ จะมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สามซึ่งเว็บไซต์เหล่านั้นอาจมีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างจากของบริษัทฯ ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์นั้น ๆ เพื่อเข้าใจถึงรายละเอียดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อตัดสินใจในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม

 

16. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และนโยบาย ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ของบริษัทฯ รวมทั้งประสานงาน และให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

17. คำถามที่เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว

หากท่านมีคำถาม  หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือการจัดการดูแลข้อมูลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายัง

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เบอร์โทรศัพท์ 0-2242-4000 หรืออีเมล dpo@boonrawd.co.th

 

18. ช่องทางการติดต่อ

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ ข้อมูลที่ทางบริษัทฯ เก็บรวบรวม หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อ 11. ท่านสามารถติดต่อมายัง

 

ชื่อบริษัทฯ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
ที่อยู่ 999 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
เว็บไซต์ของบริษัทฯ www.boonrawd.co.th
เบอร์โทรศัพท์

อีเมล

0-2242-4000

dpo@boonrawd.co.th

19. ติดต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Appropriate Authority)

หากท่านต้องการรายงานเรื่องร้องเรียน หรือหากท่านรู้สึกว่าบริษัทฯ ไม่ตอบข้อกังวลของท่านในลักษณะที่น่าพึงพอใจ ท่านสามารถติดต่อ และ/หรือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามรายละเอียดด้านล่าง

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

อีเมล                            pdpc@mdes.go.th

เบอร์โทรศัพท์              0-2142-1033

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือผู้เข้ามาติดต่อ

 

            บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอก บริษัทฯ จึงยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัทฯ เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือผู้เข้ามาติดต่อ (รวมเรียกว่า “ท่าน”) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ และรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

 

1. นิยาม

บริษัทฯ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัทซึ่งมีรายชื่อตามลิงค์นี้ https://www.boonrawd.co.th
พนักงาน หมายถึง พนักงานของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
ผู้ดูแลระบบงาน หมายถึง หน่วยงาน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของระบบงาน หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของระบบงาน หมายถึง ผู้บริหารของฝ่ายงานทางธุรกิจ หรือผู้บริหารที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อระบบงานหนึ่ง ๆ
ผู้เยาว์

 

 

เจ้าของข้อมูล

ส่วนบุคคล

หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ยกเว้นบุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์แต่ได้ทำการสมรสตามกฎหมายอันมีผลให้เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งมีความหมายในลักษณะเป็นบุคคลที่ข้อมูลนั้นชี้บ่งไปถึง ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นคนสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล รูป ลายนิ้วมือ รหัสประชาชน ซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางตรง หรือการเก็บ Location หรือ Cookie ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางอ้อม นอกจากนี้รวมถึงข้อมูลที่โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถนำไประบุตัวบุคคลได้แต่เมื่อนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นแล้วก่อให้เกิดชุดข้อมูลที่สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น ที่อยู่ เพศ และอายุ เมื่อนำมารวมกันสามารถนำไประบุตัวบุคคลได้ก็จะเกิดเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

 

 

 

 

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพ หรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า (Face Recognition) ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบจัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
แอปพลิเคชัน หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดยแอพพลิเคชั่น (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่าส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่าง ๆ

 

 

 

คุกกี้ (Cookie) หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว
ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดทำข้อมูลนิรนามแล้ว

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ได้แก่

2.1.1 เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของบริษัทฯ ไม่ว่ากิจกรรมดังกล่าวจะจัดโดยบริษัทฯ หรือบุคคลที่บริษัทฯ ว่าจ้าง หรือเป็นกิจกรรมที่บริษัทฯ มีส่วนร่วมในการจัด บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ หรือเมื่อท่านเข้ามาในบริเวณพื้นที่จัดกิจกรรม หรือพื้นที่ของบริษัทฯ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม เช่น

(ก) ข้อมูลสำหรับการลงทะเบียน และการเข้าร่วมกิจกรรม เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล แชทออนไลน์ โซเชียลมีเดีย

(ข) ภาพและเสียง รูปถ่าย และภาพเคลื่อนไหว

(ค) กิจกรรม หรือเหตุการณ์ที่ท่านเคยเข้าร่วมในอดีต หรือที่เคยลงทะเบียนไว้

(ง) รายละเอียดการชำระเงิน และธุรกรรมทางการเงินของท่านที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม

(จ) รายละเอียดของบุคคลที่ท่านอ้างถึง และรายละเอียดของผู้ที่บริษัทฯ สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

2.1.2 เมื่อท่านเป็นบุคคลทั่วไปที่เข้ามาบริเวณพื้นที่ของบริษัทฯ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดย

(ก) เมื่อท่านเข้ามาในพื้นที่ของบริษัทฯ จะมีการเก็บภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (“กล้อง CCTV”) ของบริษัทฯ โดยไม่ได้เก็บข้อมูลเสียงผ่านทางกล้อง CCTV อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะติดป้ายให้ทราบว่ามีการใช้กล้อง CCTV ในบริเวณพื้นที่ของบริษัทฯ

(ข) บันทึกของผู้มาติดต่อ (visitor records)

– ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชน หรือหลักฐานอื่นทำนองเดียวกัน

– เมื่อท่านเข้ามาภายในบริเวณบริษัทฯ ด้วยยานพาหนะ บริษัทฯ จะเก็บหมายเลขทะเบียนยานพาหนะ

(ค) เมื่อท่านใช้บริการ Wi-Fi ของบริษัทฯ ท่านต้องทำการลงทะเบียนเข้าใช้งานตามข้อกำหนดการใช้งานของบริษัทฯ โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมเพื่อดำเนินการให้บริการ Wi-Fi แก่ท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล

 

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)

2.2.1 บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

  • บริษัทฯ อาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง โรคประจำตัว ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา หมู่โลหิต ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการจ่ายยา เพื่อประโยชน์ในการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ หรือการเข้ามาในพื้นที่ของบริษัทฯ รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อการบริหารจัดการที่เหมาะสมอื่นๆ

(ข) ข้อมูลชีวภาพเพื่อใช้ในการระบุ และยืนยันตัวตนของท่าน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น

(ค) ความเชื่อในลัทธิศาสนา ปรัชญา เชื้อชาติ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรมที่เหมาะสม

(ง) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่านเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

2.2.3 ในกรณีที่จำเป็น บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน รวมทั้งการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านไปต่างประเทศต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้บริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน

ซึ่งต่อไปในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับท่านข้างต้นรวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

3.1 เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ เช่น เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของบริษัทฯ หรือเข้ามาติดต่อในพื้นที่ของ        บริษัทฯ เพื่อดำเนินการใด ๆ

3.2 เพื่อให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนด เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย

3.3 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เช่น การบันทึกเสียง การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหวกล้อง CCTV การยืนยันตัวตน การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับจากท่าน การวิเคราะห์ และจัดทำฐานข้อมูล การบริหารจัดการ และปรับปรุง การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมการเข้าออกอาคารสถานที่ บริเวณภายในพื้นที่ และระบบสารสนเทศ อินเตอร์เน็ตของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัย การป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรมเป็นหลักฐานในการสืบสวน สอบสวนทั้งกรณีมาตรการภายในบริษัทฯ หรือการดำเนินการของเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย

3.4 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ และหากท่านเป็นผู้เยาว์ ก่อนให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ โปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้บริษัทฯ ทราบ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของท่านด้วย

3.5 เพื่อป้องกัน และระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน หรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุม และการป้องกันโรค

3.6 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัทฯ

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่าน หรือฐานทางกฎหมายอื่นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เช่น ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ให้บริการภายนอกทั้งในประเทศ และต่างประเทศด้านการรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบประวัติ การจัดทำโปรแกรม ระบบสารสนเทศ ผู้ให้บริการกล้อง CCTV ผู้จัดงาน จัดกิจกรรม ตัวแทนของบริษัทฯ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย นิติบุคคล หรือบุคคลใด ๆ ที่มีความสัมพันธ์ หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัทฯ บุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจ หรือให้บริการแก่ท่าน ซึ่งรวมตลอดถึงผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทฯ และของบุคคล หรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว

บริษัทฯ จะกำหนดให้ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

 

5. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ บริษัทฯ จึงอาจมีความจำเป็นต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทฯ เช่น การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน Server, Cloud ในประเทศต่าง ๆ

กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะดูแลการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกรณีที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมาตรการเยียวยาตามที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับตามที่กฎหมายประเทศนั้นกำหนด เช่น กำหนดให้ผู้รับข้อมูลมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับมาตรการของบริษัทฯ มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกัน บริษัทฯ อาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบ และรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการให้การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้

6. ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนด หรืออนุญาตไว้ หรือตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้

6.2 ในกรณีกล้อง CCTV บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูล ดังนี้

6.2.1 ในสถานการณ์ปกติ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บไว้นานถึง 30 วัน

6.2.2 ในกรณีจำเป็น เช่น ต้องใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี หรือกรณีที่เจ้าของส่วนบุคคลร้องขอ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บไว้เกินกว่า 30 วัน และบริษัทฯ จะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัยเมื่อเสร็จสิ้นวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว

6.3 กรณีที่บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอมเพื่อให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้

6.4 บริษัทฯ จะลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม หรือสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

7. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจ หรือโดยไม่ชอบ และบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็น และเหมาะสม

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และมีความปลอดภัยตามมาตรการที่บริษัทฯ กำหนดเมื่อต้องมีการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น ดังนี้

8.1  สิทธิขอถอนความยินยอม

หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อท่าน ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษา และสอบถามถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นก่อนเพิกถอนความยินยอม

ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่น ท่านให้คำรับรองว่าท่านมีอำนาจกระทำการแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการรับทราบนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และในการให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

8.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของท่าน

8.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

8.4 สิทธิขอคัดค้าน

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่ละกรณี

8.5 สิทธิขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอม หรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็น และต้องลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน

8.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.8 สิทธิร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

8.9 การใช้สิทธิ

การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิ และยื่นคำร้องต่อ บริษัทฯ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธ หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย (โดยท่านเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลบังคับใช้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)

ระยะเวลาดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ โดยเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอ

สิทธิ ระยะเวลาดำเนินการ
สิทธิขอถอนความยินยอม 7 วัน
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
สิทธิขอคัดค้าน
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล 1 วัน

 

9. การติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ สามารถติดต่อบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ผ่านช่องทางดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เบอร์โทรศัพท์ 0-2242-4000 หรืออีเมล dpo@boonrawd.co.th

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

 

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

 

บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

 

  1. ความสำคัญ และวัตถุประสงค์

บุญรอดบริวเวอรี่เคารพ และให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า คู่ค้าธุรกิจ พันธมิตรทางธุรกิจ พนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่ และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุญรอดบริวเวอรี่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบุคคลดังกล่าวจะได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างครบถ้วนตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คณะกรรมการบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด จึงอนุมัติให้ใช้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บุญรอดบริวเวอรี่มีหลักเกณฑ์ กลไก มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน ถูกต้อง และเหมาะสม

  1. ขอบเขตการบังคับใช้

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้บังคับกับบุญรอดบริวเวอรี่ พนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของบุญรอดบริวเวอรี่

 

  1. คำนิยาม

3.1 การประมวลผล (Processing) หมายถึง การดำเนินการใดๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลง ปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย

3.2 ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล รูปภาพ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ IP Address

3.3 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject) หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม

3.4 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) หมายถึง บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

3.5 ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) หมายถึง บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

3.6 บุญรอดบริวเวอรี่ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทซึ่งบริษัท                  บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ถือหุ้นไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Governance)

4.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อกำหนดวิธีการ และมาตรการที่เหมาะสมในการปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนี้

(1) กำหนดให้มีโครงสร้างองค์กร (Organizational Structure) รวมทั้งกำหนดบทบาท ภารกิจ และความรับผิดชอบของหน่วยงาน และผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เพื่อสร้างกลไกการกำกับดูแล การควบคุม ความรับผิดชอบ การปฏิบัติงาน การบังคับใช้ และการติดตามมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(2) แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) โดยมีบทบาท และหน้าที่ตามที่กำหนดในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

4.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดทำนโยบาย (Policy) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

4.3 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการบริหารการปฏิบัติตามนโยบาย (Policy Management Process) เพื่อควบคุมดูแลให้มีการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่อย่างต่อเนื่อง

4.4 บุญรอดบริวเวอรี่จะดำเนินการฝึกอบรมพนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และทำให้มั่นใจได้ว่าพนักงานที่เกี่ยวข้องทุกคนผ่านการฝึกอบรม และมีความรู้ความเข้าใจในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Processing)

5.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นธรรม โปร่งใส และคำนึงถึงความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ การกำหนดขอบเขตวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ให้ทำได้เท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย และแนวทางการดำเนินธุรกิจของบุญรอดบริวเวอรี่ อีกทั้งบุญรอดบริวเวอรี่จะดำเนินการรักษาความลับ ความถูกต้องสมบูรณ์ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ

5.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการ และการควบคุมเพื่อบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในทุกขั้นตอนให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่โดยจะจัดให้มีนโยบายการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Retention Policy)

5.3 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดทำ และรักษาบันทึกการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Records of Processing: RoP) สำหรับบันทึกรายการ และกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฏหมาย รวมทั้งจะปรับปรุงบันทึกการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรายการ หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

5.4 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการที่ชัดเจนเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการแจ้งวัตถุประสงค์      การเก็บรวบรวม และรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notices) สอดคล้องกับกฎหมาย และจะจัดให้มีขั้นตอนปฏิบัติการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Consent Management Procedure) รวมทั้งจัดให้มีมาตรการดูแล และตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว

5.5 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีนโยบายการทำข้อตกลง หรือสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Outsourcing Policy for Personal Data Processing) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย และสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ                 บุญรอดบริวเวอรี่

5.6 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกลไกการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งจัดให้มีกลไกการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

5.7 ในกรณีที่บุญรอดบริวเวอรี่ส่ง โอน หรือให้บุคคลอื่นใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดทำข้อตกลงกับผู้ที่รับ หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเพื่อกำหนดสิทธิ และหน้าที่ให้สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ หรือกรณีที่บุญรอดบริวเวอรี่ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บุญรอดบริวเวอรี่จะปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมาย โดยจะจัดให้มีนโยบายการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานภายนอก หรือการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังหน่วยงานในต่างประเทศ  (Third Parties/Cross Border Data Transfer Policy)

5.8 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีนโยบายการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนด (Personal Data Disposal Policy) ซึ่งจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อครบกำหนดระยะเวลา โดยปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมาย และแนวทางการดำเนินธุรกิจของบุญรอดบริวเวอรี่

5.9 บุญรอดบริวเวอรี่จะประเมินความเสี่ยง และจัดทำมาตรการเพื่อบรรเทาความเสี่ยง และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการรองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Rights)

6.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีมาตรการ ช่องทาง และวิธีการเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้สิทธิของตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งจะดำเนินการบันทึก และประเมินผลการตอบสนองต่อคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

6.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีขั้นตอนปฏิบัติต่อคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Request Procedure) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคำขอใช้สิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Security)

7.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ รวมทั้งดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล และการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

7.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีขั้นตอนปฏิบัติในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Breach Management Procedure) เพื่อให้สามารถระบุ และจัดการกับเหตุการณ์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างทันท่วงที

7.3 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงเจ้าพนักงานของรัฐ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (ในกรณีที่บุญรอดบริวเวอรี่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกัน) และบุคคลอื่นให้สอดคล้องกับกฎหมาย

 

  1. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ด้านการกำกับให้เกิดการปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Compliance)

8.1 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีกระบวนการติดตามในกรณีที่กฎหมายเปลี่ยนแปลงไป และปรับปรุงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกฎหมายอยู่เสมอ

8.2 บุญรอดบริวเวอรี่จะจัดให้มีการทบทวน และปรับปรุงนโยบาย (Policy) มาตรฐานปฏิบัติงาน(Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำ เพื่อให้ทันสมัยสอดคล้องกับกฎหมาย และสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา

 

  1. บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ

9.1 คณะกรรมการบริษัท มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

(1) กำกับให้เกิดโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้องของบุญรอดบริวเวอรี่ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(2) กำกับดูแล และสนับสนุนให้บุญรอดบริวเวอรี่ดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับกฎหมาย

9.2 คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูล (Data Governance) คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูลที่คณะกรรมการบริษัทแต่งตั้งขึ้นมีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

(1) จัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนโยบาย (Policy) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(2) ประเมินประสิทธิภาพการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ         บุญรอดบริวเวอรี่ และรายงานผลการประเมินดังกล่าวให้คณะกรรมการบริษัททราบเป็นประจำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี รวมถึงควบคุมดูแลให้มั่นใจได้ว่าความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการจัดการ และมีแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

(3) กำหนด และทบทวนมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) และแนวปฏิบัติ (Guidelines) เพื่อให้การดำเนินงานของบุญรอดบริวเวอรี่สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(4) เสนอรายชื่อบุคคลให้กรรมการผู้จัดการใหญ่แต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)

9.3 ผู้บริหาร มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบในการติดตามควบคุมให้หน่วยงานที่ตนดูแลปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ และส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นกับพนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่

9.4 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงหน้าที่ดังต่อไปนี้

(1) รายงานสถานะการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูลทราบอย่างสม่ำเสมอ และจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกฎหมายอยู่เสมอ

(2) ให้คำแนะนำพนักงาน และหน่วยงานต่างๆ ของบุญรอดบริวเวอรี่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

(3) ตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของบุญรอดบริวเวอรี่ ให้เป็นไปตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่

9.5 พนักงานของบุญรอดบริวเวอรี่ มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

(1) ปฏิบัติให้สอดคล้องกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่  มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

(2) รายงานเหตุการณ์ผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

 

  1. โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่อาจมีความผิด และถูกลงโทษทางวินัย รวมทั้งอาจได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุญรอดบริวเวอรี่ฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

 

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

สำหรับผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน, ผู้สมัครเข้าฝึกงาน และผู้ฝึกงาน

 

          บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอก บริษัทฯ จึงยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัทฯ เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน, ผู้สมัครเข้าฝึกงาน และผู้ฝึกงาน (รวมเรียกว่า “ท่าน”) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ และรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

 

1. นิยาม

บริษัทฯ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัทซึ่งมีรายชื่อตามลิงค์นี้ https://www.boonrawd.co.th
พนักงาน หมายถึง พนักงานของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
ผู้ดูแลระบบงาน หมายถึง หน่วยงาน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของระบบงาน หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของระบบงาน หมายถึง ผู้บริหารของฝ่ายงานทางธุรกิจ หรือผู้บริหารที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อระบบงานหนึ่ง ๆ
ผู้เยาว์

 

 

เจ้าของข้อมูล

ส่วนบุคคล

หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ยกเว้นบุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์แต่ได้ทำการสมรสตามกฎหมายอันมีผลให้เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งมีความหมายในลักษณะเป็นบุคคลที่ข้อมูลนั้นชี้บ่งไปถึง ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นคนสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล รูป ลายนิ้วมือ รหัสประชาชน ซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางตรง หรือการเก็บ Location หรือ Cookie ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางอ้อม นอกจากนี้รวมถึงข้อมูลที่โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถนำไประบุตัวบุคคลได้แต่เมื่อนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นแล้วก่อให้เกิดชุดข้อมูลที่สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น ที่อยู่ เพศ และอายุ เมื่อนำมารวมกันสามารถนำไประบุตัวบุคคลได้ก็จะเกิดเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

 

 

 

 

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพ หรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า (Face Recognition) ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบจัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
แอปพลิเคชั่น หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดยแอพพลิเคชั่น (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่าส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่าง ๆ

 

 

 

คุกกี้ (Cookie) หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว
ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดทำข้อมูลนิรนามแล้ว

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ได้แก่

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้แก่บริษัทฯ โดยตรง และข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับ หรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง เช่น หน่วยงานของรัฐ, บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน, สถาบันการเงิน, ผู้ให้บริการทางการเงิน, พันธมิตรทางธุรกิจ, บริษัทข้อมูลเครดิต และผู้ให้บริการข้อมูล เป็นต้น โดยบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่บริษัทฯ มีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต
  • ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในใบสมัคร

(ก) ข้อมูลตามเอกสารที่ท่านส่งมอบให้บริษัทฯ เช่น Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายสมัครงาน ใบสมัครงาน ความเห็นประกอบการสรรหาพนักงาน

(ข) ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด น้ำหนัก ส่วนสูง สถานที่เกิด สถานภาพสมรส สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง ความเป็นพลเมือง เลขที่ใบขับขี่ สถานภาพการเกณฑ์ทหาร ใบอนุญาตต่าง ๆ

(ค) ข้อมูลในการติดต่อกับท่าน เช่น ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์ รวมถึงข้อมูลในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ

(ง) เงื่อนไขในการปฏิบัติงาน เช่น สามารถปฏิบัติงานต่างจังหวัดได้หรือไม่ พื้นที่ที่ต้องการปฏิบัติงาน

(จ) ข้อมูลของคู่สมรส บุตร บิดามารดา เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน สัญชาติ  หมายเลขโทรศัพท์ ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

(ฉ) รูปถ่าย และภาพเคลื่อนไหว

(ช) ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของท่าน เช่น ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา สถาบัน/มหาวิทยาลัย ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ผลการศึกษา ผลการทดสอบ สิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางด้านภาษา และความสามารถอื่นๆ ข้อมูลจากการอ้างอิงที่ท่านได้ให้แก่บริษัท

(ซ) ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงาน และข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต เช่น ประวัติการทำงาน ตำแหน่งงาน รายละเอียดของนายจ้าง เงินเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการที่ได้รับ

(ฌ) ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่ปฏิบัติงานได้

(ญ) ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ

(ฎ) รายละเอียดของบุคคลที่ท่านอ้างถึง และรายละเอียดของผู้ที่บริษัทสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

2.1.3 ข้อมูลจากการทำแบบทดสอบข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของท่าน เช่น นิสัย ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความผูกพันต่อองค์กร ซึ่งอาจได้มาจากการสังเกตุ และวิเคราะห์ของบริษัทฯ ในระหว่างที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทฯ

2.1.4 ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานให้หน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน

2.1.5 ข้อมูลที่รวบรวมจากท่าน เช่น ข้อมูลที่ท่านระบุ หรือให้ไว้แก่บริษัทฯ ข้อมูลที่ท่านแจ้งแก่บริษัทฯ ในระหว่างการสัมภาษณ์งาน ข้อมูลของท่านจากการทำแบบทดสอบต่างๆ ข้อมูลที่ท่านให้ไว้ในการเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทฯ

2.1.6 ข้อมูลที่ท่านเลือกจะแบ่งปัน และเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชั่น เครื่องมือ แบบสอบถาม แบบประเมิน และบริการต่างๆ ของบริษัทฯ

2.1.7 สำเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่าน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับรถ เอกสารที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน เช่น ประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร วุฒิบัตร ใบแสดงผลการศึกษา

2.1.8 ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการสรรหา และคัดเลือกพนักงาน หรือผู้ฝึกงาน การปฏิบัติตามสัญญาการฝึกงาน การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ การวิเคราะห์ และการบริหารงานของบริษัทฯ และการปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ

2.1.9 สำหรับผู้ฝึกงาน มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เช่น

(ก) ข้อมูลเกี่ยวกับบิดามารดา หรือผู้ปกครอง เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

(ข) เลขบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการรับเงินค่าเบี้ยเลี้ยงฝึกงาน

(ค) ลักษณะของผู้ฝึกงาน และข้อมูลจาการฝึกงาน เช่น นิสัย ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความมีวินัย หรือลักษณะอื่นๆ รวมถึงการบันทึกเวลาเข้าออกการฝึกงาน และระยะเวลาในการฝึกงาน เพื่อประเมินผลการฝึกงาน

(ง) ข้อมูลอื่นๆ เช่น รายละเอียดของผู้แนะนำ ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

 

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)

2.2.1 บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

  • บริษัทฯ อาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง โรคประจำตัว ตาบอดสี ผลการตรวจร่างกาย ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา หมู่โลหิต ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการจ่ายยา ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล เพื่อการคุ้มครองแรงงาน การประเมินความสามารถในการทำงานของท่าน รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของท่าน หรือเพื่อการบริหารจัดการที่เหมาะสมอื่นๆ

(ข) ข้อมูลชีวภาพ เพื่อใช้ในการระบุ และยืนยันตัวตนของท่าน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น

(ค) ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงาน และรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น

(ง) ความเชื่อในลัทธิศาสนา ปรัชญา เชื้อชาติ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรม และสวัสดิการที่เหมาะสมกับพนักงาน รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน

(จ) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่านเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม และสวัสดิการของพนักงาน

2.2.3 ในกรณีที่จำเป็น บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน รวมทั้งการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านไปต่างประเทศ ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้บริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน

ซึ่งต่อไปในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับท่านข้างต้นรวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

3.1 การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)

เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ/ใบสมัครของท่านในการสมัครงาน สมัครฝึกงานกับบริษัทฯ เช่น การดำเนินการตามกระบวนการสรรหา การตรวจสอบคุณสมบัติ คัดเลือกก่อนการทำสัญญาจ้างพนักงาน รวมถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงการเข้าฝึกงาน การจ่ายค่าตอบแทนการฝึกงาน การได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการฝึกงาน

3.2 การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

เพื่อให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนด เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย

3.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ  หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เช่น การบันทึกเสียง การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหวกล้อง CCTV การยืนยันตัวตน การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับจากท่าน การวิเคราะห์ และจัดทำฐานข้อมูล การบริหารจัดการ และปรับปรุงกระบวนการสรรหา และคัดเลือกพนักงาน การประเมินผลการฝึกงาน การส่งข่าวสารที่เกี่ยวกับตำแหน่งงาน การจัดทำสัญญาฝึกงาน หรือสัญญาจ้างพนักงานในกรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือก การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

3.4 ความยินยอม (Consent)

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ เช่น การยินยอมให้ส่งข้อมูลการสมัครเข้าทำงาน หรือการสมัครเข้าฝึกงานของท่านให้แก่บริษัทในเครือ และหากท่านเป็นผู้เยาว์ ก่อนให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ โปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้บริษัทฯ ทราบ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของท่านด้วย

3.5 เพื่อป้องกัน และระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน หรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุม และการป้องกันโรค

3.6 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฎิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัทฯ

 

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่าน หรือฐานทางกฎหมายอื่นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เช่น ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ให้บริการภายนอกทั้งในประเทศ และต่างประเทศเกี่ยวกับกระบวนการสรรหา หรือคัดเลือกบุคลากร การจ้างงาน การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบประวัติ การทดสอบคุณสมบัติและความสามารถ หรือระบบสารสนเทศ ตัวแทนของบริษัทฯ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ สถาบันการเงิน คู่ธุรกิจ ผู้พัฒนาระบสารสนเทศ ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ผู้สนใจจะเข้ารับโอนสิทธิ และ/หรือผู้รับโอนสิทธิ หรือการควบรวมกิจการต่าง ๆ ของบริษัท นิติบุคคล หรือบุคคลใด ๆ ที่มีความสัมพันธ์ หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัทฯ บุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจ หรือให้บริการแก่ท่าน ซึ่งรวมตลอดถึงผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทฯ และของบุคคล หรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว

บริษัทฯ จะกำหนดให้ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

 

5. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ บริษัทฯ จึงอาจมีความจำเป็นต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทฯ เช่น การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน Server, Cloud ในประเทศต่าง ๆ

กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะดูแลการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกรณีที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมาตรการเยียวยาตามที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับตามที่กฎหมายประเทศนั้นกำหนด เช่น กำหนดให้ผู้รับข้อมูลมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับมาตรการของบริษัทฯ มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกัน บริษัทฯ อาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบ และรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการให้การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้

 

6. ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนด หรืออนุญาตไว้ เช่น กรณีที่ท่านไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพนักงาน บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี เพื่อเป็นหลักฐานว่าบริษัทฯ ได้พิจารณาคัดเลือกท่านอย่างยุติธรรม หรือตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้เพื่อการพิจารณา และติดต่อกับท่านในกรณีที่มีตำแหน่งงานอื่นที่บริษัทฯ เห็นว่าอาจเหมาะสมกับท่านในอนาคต

6.2 ระยะเวลาที่บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจแตกต่างกันไปตามกิจกรรมการประมวลผล

6.3 กรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือกเข้าเป็นพนักงาน หรือเข้าฝึกงาน บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปมีระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจ้างงานพนักงาน หรือการฝึกงานของท่าน

6.4 กรณีที่บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอมเพื่อให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้

6.5 บริษัทฯ จะลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม หรือสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

 

7. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจ หรือโดยไม่ชอบ และบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็น และเหมาะสม

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และมีความปลอดภัยตามมาตรการที่บริษัทฯ กำหนด เมื่อต้องมีการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น ดังนี้

8.1 สิทธิขอถอนความยินยอม

หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อท่าน ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษา และสอบถามถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นก่อนเพิกถอนความยินยอม

ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่น ท่านให้คำรับรองว่าท่านมีอำนาจกระทำการแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการรับทราบนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และในการให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

8.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของท่าน

8.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

8.4 สิทธิขอคัดค้าน

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่ละกรณี

8.5 สิทธิขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอม หรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็น และต้องลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน

8.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.8 สิทธิร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

8.9 การใช้สิทธิ

การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิ และยื่นคำร้องต่อ บริษัทฯ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธ หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย (โดยท่านเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลบังคับใช้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)

ระยะเวลาดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ โดยเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอ

สิทธิ ระยะเวลาดำเนินการ
สิทธิขอถอนความยินยอม 7 วัน
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
สิทธิขอคัดค้าน
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล 1 วัน

9. การติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ สามารถติดต่อบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ผ่านช่องทางดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เบอร์โทรศัพท์ 0-2242-4000 หรืออีเมล dpo@boonrawd.co.th

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) สำหรับลูกค้า

 

            บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอก บริษัทฯ จึงยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าลูกค้าของบริษัทฯ ได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อจัดให้มีวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมสำหรับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทฯ ทำการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนกฎหมาย และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

1. นิยาม

บริษัทฯ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัทซึ่งมีรายชื่อตามลิงค์นี้ https://www.boonrawd.co.th
ผู้ใช้บริการ หมายถึง บุคคล หรือนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้าใช้บริการ    ต่าง ๆ ของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
ผู้มีอำนาจอนุมัติ หมายถึง ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฯ ให้มีอำนาจในการอนุมัติใด ๆ ภายใต้ขอบเขตอำนาจที่ได้รับจากบริษัทฯ
ผู้ดูแลระบบงาน หมายถึง หน่วยงาน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของระบบงาน หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของระบบงาน หมายถึง ผู้บริหารของฝ่ายงานทางธุรกิจ หรือผู้บริหารที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของข้อมูล

ส่วนบุคคล

หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งมีความหมายในลักษณะเป็นบุคคลที่ข้อมูลนั้นชี้บ่งไปถึง ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นคนสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา
ผู้เยาว์ หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ยกเว้นบุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์แต่ได้ทำการสมรสตามกฎหมายอันมีผลให้เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
คนไร้ความสามารถ หมายถึง บุคคลวิกลจริตที่ไม่สามารถดูแลตัวเอง หรือผลประโยชน์ของตัวเองได้ ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
คนเสมือนไร้ความสามารถ หมายถึง บุคคลที่มีกายพิการ หรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือประพฤติสุรุ่ยสุร่ายเสเพลเป็นอาจิณ หรือติดสุรายาเมา หรือเหตุอื่นใดทำนองเดียวกันจนไม่สามารถจัดทำการงานโดยตนเองได้ หรือจัดกิจการไปในทางที่เสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเอง หรือครอบครัว ซึ่งศาลได้สั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ และอยู่ในความดูแลของผู้พิทักษ์ที่ศาลแต่งตั้ง

 

 

 

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล รูป ลายนิ้วมือ รหัสประชาชน ซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางตรง หรือการเก็บ Location หรือ Cookie ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางอ้อม นอกจากนี้ รวมถึงข้อมูลที่โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถนำไประบุตัวบุคคลได้แต่เมื่อนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นแล้วก่อให้เกิดชุดข้อมูลที่สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น ที่อยู่ เพศ และอายุ เมื่อนำมารวมกันสามารถนำไประบุตัวบุคคลได้ก็จะเกิดเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพ หรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า (Face Recognition) ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เปิดเผยต่อสาธารณชน เช่น ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูล และรหัสการเข้าระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Credential) เช่น Facebook, Twitter, Line เพื่อเชื่อมต่อ หรือเข้าสู่บริการ  ใด ๆ ของบริษัทฯ เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Account ID) สิ่งที่สนใจ (Interests) รายการที่ชอบ (Likes) และรายชื่อเพื่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว

 

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือชุดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลง หรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
แอปพลิเคชัน หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดย แอปพลิเคชัน (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่าง ๆ
IP Address

 

 

คุกกี้ (Cookie)

หมายถึง สัญลักษณ์เชิงหมายเลขที่กำหนดให้แก่อุปกรณ์แต่ละชนิด เช่นคอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องพิมพ์ที่มีส่วนร่วมอยู่ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่ง ๆ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตโพรโทคอลในการสื่อสาร

หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว

สำนักงาน หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

 

2. บทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบ

2.1 คณะกรรมการบริษัทฯ มีหน้าที่กำกับดูแลให้มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย และกฎเกณฑ์ของราชการ

2.2 คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูล (Data Governance) ได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการ บริษัทฯ ให้มีหน้าที่ และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

2.2.1 จัดให้มีโครงสร้างการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนโยบาย (Policy) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standards) แนวปฏิบัติ (Guidelines) ขั้นตอนปฏิบัติ (Procedures) และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.2.2 กำหนด และทบทวนนโยบาย มาตรฐานการปฏิบัติงาน แนวปฏิบัติ และขั้นตอนปฏิบัติเพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทฯ สอดคล้องกับกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ

2.2.3 ให้ข้อเสนอแนะ และพิจารณากลั่นกรองวัตถุประสงค์ นโยบาย แผนงาน แนวปฏิบัติ กระบวนการ และเอกสารที่เกี่ยวข้องด้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

2.2.4 ประเมินประสิทธิภาพการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ และรายงานผลการประเมินดังกล่าวให้คณะกรรมการบริษัทฯ ทราบเป็นประจำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี

2.2.5 แต่งตั้ง หรือปรับเปลี่ยนคณะทำงานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูลได้ตามความเหมาะสม

2.2.6 กำกับดูแลการดำเนินงานของคณะทำงานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

2.2.7 เชิญหน่วยงาน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจง หรือให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานได้

2.2.8 กำกับดูแลการปฏิบัติตามนโยบาย และมีอำนาจอนุมัติการเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือทบทวนนโยบายนี้

2.3 ผู้บริหารมีหน้าที่ และความรับผิดชอบในการจัดการ ติดตาม และควบคุมให้หน่วยงานที่ตนดูแลปฏิบัติตามกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ รวมถึงจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิผล

2.4 พนักงานมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้ ระเบียบปฏิบัติ และคำสั่งของบริษัทฯ รวมถึงกฎหมาย และกฎเกณฑ์ของราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด

3. บททั่วไป

ข้อกำหนดทั่วไป

3.1 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ครอบคลุมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา

3.2 บริษัทฯ กำหนดให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) มีหน้าที่ดำเนินการทบทวนนโยบายฉบับนี้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญต่อการปฏิบัติงานตามนโยบายฉบับนี้พร้อมเสนอให้คณะกรรมการกำกับการจัดการข้อมูล (Data Governance) ของบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติ และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ บริษัทฯ จะประกาศให้ทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ https://www.boonrawd.co.th

3.3 บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะนั้น เว้นแต่บริษัทฯ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หรือมีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ ดังนี้

3.3.1 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา

3.3.2 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

3.3.3 เป็นการจำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่เกินขอบเขตที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุผล

3.3.4 เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ

3.3.5 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต

3.3.6 เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ

3.4 บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย และแจ้งรายละเอียดในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลทราบตามที่กฎหมายกำหนด

 

3.5 บริษัทฯ ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม เว้นแต่มีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ทางราชการที่ทำให้บริษัทฯ ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป

3.6 บริษัทฯ มีการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย รวมถึงคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล

4. การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

4.1 การขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ต้องดำเนินการอย่างชัดแจ้งเป็นหนังสือ หรือทำโดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่โดยสภาพไม่อาจขอความยินยอมด้วยวิธีดังกล่าวได้ การขอความยินยอมด้วยวิธีอื่นจะต้องมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้แสดงเจตนาให้ความยินยอม

4.2 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับการแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่หลอกลวง หรือทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใจผิดในวัตถุประสงค์ และคำนึงอย่างที่สุดในความเป็นอิสระของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการให้ความยินยอม

4.3 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส หรือไม่มีฐานะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ให้ขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์

4.4 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคนไร้ความสามารถ ให้ขอความยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถ

4.5 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ ให้ขอความยินยอมจากผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ

4.6 กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้มีอำนาจตามข้อ 4.3, 4.4, 4.5 ต้องการถอนความยินยอมที่เคยให้ไว้ ให้ดำเนินการตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลขอโดยง่ายเช่นเดียวกับการให้ความยินยอม และหากการถอนความยินยอมส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในเรื่องใด ให้แจ้งถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้นให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ

4.7 บริษัทฯ ต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้จะทำไม่ได้ เว้นแต่ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยได้รับความยินยอมก่อนเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยแล้ว

 

5. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ในการดำเนินงานของบริษัทฯ ในด้านต่าง ๆ ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ของราชการ

5.2 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ให้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อน หรือในขณะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้

5.2.1 วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมเพื่อการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ หรือเปิดเผย

5.2.2 ความจำเป็นที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อเข้าทำสัญญา และผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

5.2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีการเก็บรวบรวม และระยะเวลาในการเก็บรวบรวมไว้

5.2.4 ประเภทของบุคคล หรือหน่วยงานที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงรายชื่อของบุคคล หรือหน่วยงานดังกล่าว (ตามแต่กรณี)

5.2.5 สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย

5.2.6 ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สถานที่ติดต่อ และวิธีการติดต่อ

5.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมต้องถูกต้องครบถ้วนตามข้อเท็จจริงที่ได้รับแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน

5.4 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ให้ดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่มีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ และต้องขออนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติทุกครั้งก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

5.5 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ต้องแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่มีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ โดยขออนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติ

5.6 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีการบันทึกรายละเอียดวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูล สิทธิ และวิธีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและเงื่อนไขเกี่ยวกับบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือสำนักงานสามารถตรวจสอบได้

 

6. การเข้าถึง และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 พนักงานของบริษัทฯ สามารถเข้าถึง หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้เท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติงาน และตามสิทธิที่บริษัทฯ กำหนด หากพนักงานของบริษัทฯ มีความจำเป็นในการปฏิบัติงานที่ต้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเกินกว่าสิทธิที่บริษัทฯ กำหนด ต้องดำเนินการขออนุมัติจากผู้มีอำนาจ

6.2 พนักงานของบริษัทฯ ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอมเท่านั้น เว้นแต่มีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ

6.3 ผู้ดูแลระบบงาน และเจ้าของระบบงานต้องอนุญาตให้พนักงานของบริษัทฯ เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้เฉพาะพนักงานของบริษัทฯ ที่มีสิทธิตามที่กำหนด หรือได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติ

 

7. วิธีที่ได้มา

บริษัทฯ มีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยกระบวนการต่อไปนี้

7.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง

7.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทในเครือ

7.3 ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่สาม เช่น ตัวแทน ร้านค้า หรือบริษัทที่ให้การบริการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล คู่ค้า พันธมิตร เป็นต้น

7.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เช่น ชื่อของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และที่อยู่ไอพี (IP Address) ผ่านการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต วันที่ และเวลาของการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หน้าเพจที่เข้าเยี่ยมชมขณะเข้าเว็บไซต์ และที่อยู่ของเว็บไซต์ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับเว็บไซต์ของบริษัทฯ

7.5 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากข้อมูลสาธารณะ (Public Records) และที่ไม่ใช่สาธารณะ           (Non-Public Records) ที่บริษัทฯ มีสิทธิเก็บรวบรวมได้ตามกฎหมาย

7.6 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแลที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย

 

8. การเปิดเผย และการรับข้อมูลส่วนบุคคล

8.1 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคล หรือองค์กรภายนอกบริษัทฯ ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และต้องได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ของราชการ

บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในเครือ บุคคลภายนอก และ/หรือองค์กร หรือหน่วยงานภายนอกเฉพาะในกรณี ดังต่อไปนี้

8.1.1 ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นคนกลาง ได้แก่ บริษัทขนส่ง บริษัทที่ให้บริการในการจัดเก็บข้อมูล และรวบรวมข้อมูล บริษัทรับพัฒนา และบำรุงรักษาระบบในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ

8.1.2 คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทย่อย และ/หรือผู้ให้บริการภายนอกเพื่อให้บริการในการนำเสนอสิทธิประโยชน์ และบริการอื่น ๆ ของบริษัทฯ แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการพัฒนา ปรับปรุง ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัทฯ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาแพลตฟอร์มบริการลูกค้า การส่งอีเมล/SMS การพัฒนาเว็บไซต์ การพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ การสำรวจความพึงพอใจ และการทำวิจัย  การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยจะมีการทำสัญญารักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ กรณีนิติบุคคลจะต้องมีมาตรฐานด้านความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ

8.1.3 หน่วยงานรัฐบาล รัฐบาล หรือองค์กรอื่นตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง คำร้องขอ เพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย

8.2 การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคล หรือองค์กรภายนอกบริษัทฯ ต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมีฐานที่ชอบด้วยกฎหมายรองรับ และต้องได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎเกณฑ์ของราชการ

บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับจากการให้บริการ หรือการดำเนินงานของบริษัทฯ ผ่านทุกช่องทางซึ่งรวมถึงช่องทางดังต่อไปนี้

8.2.1 ข้อมูลที่ได้รับเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทำการลงทะเบียน หรือกรอกใบสมัครขอเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ หรือการใช้บริการอื่น ๆ ของบริษัทฯ เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวอื่น ๆ หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ อีเมล เป็นต้น

8.2.2 ข้อมูลจากการสมัครสมาชิก หรือเข้าร่วมกิจกรรม ข้อมูลในการสร้างบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ที่ถูกสร้าง   โปรไฟล์ที่ประกอบด้วยรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้กับบริษัทฯ เพื่อการเข้าใช้บริการในช่องทางการให้บริการของบริษัทฯ อาทิ แอปพลิเคชันการใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ และ/หรือผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้แก่ บัญชีออนไลน์ หรือบัญชีของแอปพลิเคชันที่ให้บริการของบริษัทฯ ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้เพื่อทำการสมัครต่าง ๆ ได้แก่ สมัครเข้าร่วมกิจกรรม และ/หรือติดต่อกับบริษัทฯ ผ่านทางเว็บไซต์หรือทางช่องทางอื่น ๆ ตามที่บริษัทฯ กำหนด

8.2.3 ข้อมูลการสมัครรับข่าวสารต่าง ๆ จากการทำแบบสำรวจ หรือข้อมูลการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ความพึงพอใจ ความสนใจ หรือพฤติกรรมการบริโภค เป็นต้น

8.2.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมกับบริษัทฯ หรือกับบริษัทย่อย หรืออื่น ๆ เช่น ข้อมูลการสมัครงาน ข้อมูลการสมัครเป็นตัวแทน ข้อมูลเพื่อการเข้าเสนอราคา ซึ่งรวมถึงข้อมูลบัตรเครดิต หรือ      บัตรเดบิต หมายเลขบัญชีธนาคาร หรือข้อมูลเกี่ยวกับธนาคาร หรือการชำระเงินอื่น ๆ รวมทั้งวันที่ และเวลาที่ชำระเงิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของการทำธุรกรรมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

8.2.5 ข้อมูลจากการเข้าชม หรือใช้เว็บไซต์ของบริษัทฯ เว็บไซต์อื่น ๆ ของบริษัทย่อย หรือ        แอปพลิเคชันของบริษัทฯ หรือที่บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการ ข้อมูลการใช้ Social Media และการโต้ตอบกับโฆษณาออนไลน์ของบริษัทฯ รุ่น และประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดเข้าชมเว็บไซต์ ประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อเข้าถึงการบริการ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Laptop หรือสมาร์ทโฟน ข้อมูลประเภทระบบปฏิบัติการ และแพลตฟอร์ม ที่อยู่ IP address ของอุปกรณ์ หรือเครื่องมือปลายทาง ข้อมูล Location ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการ และผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าชม หรือค้นหา

8.2.6 ข้อมูลจากบันทึกการติดต่อของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ ซึ่งเก็บในรูปแบบของบันทึกข้อความของผู้รับบริการ การประเมินความพึงพอใจ การวิจัยและสถิติ หรือการบันทึกเสียงสนทนา หรือการบันทึกภาพผ่านกล้อง CCTV เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อกับบริษัทฯ เช่น ศูนย์บริการลูกค้าของบริษัทฯ รวมไปถึงการให้ข้อมูลผ่านสื่อที่ทำการวิจัยต่าง ๆ อาทิ SMS Social Media แอปพลิเคชัน หรือ อีเมล เป็นต้น

8.2.7 ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูล และรหัสการเข้าสู่ระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Credential) เช่น Facebook, Twitter, Line เพื่อเชื่อมต่อ หรือเข้าสู่บริการ ใด ๆ ของบริษัทฯ เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Account ID) สิ่งที่สนใจ (Interests) รายการที่ชอบ (Likes) และรายชื่อเพื่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถควบคุมการจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว

8.3 กรณีที่บริษัทฯ ให้บุคคล หรือองค์กรภายนอกบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแทนบริษัทฯ (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ต้องใช้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเทียบเท่ามาตรฐานของบริษัทฯ ตามนโยบายความมั่นคงปลอดภัยในการบริหารจัดการผู้ให้บริการภายนอกด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และต้องจัดให้มีข้อตกลงระหว่างกันเพื่อควบคุมการดำเนินงานของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายโดยกำหนดวัตถุประสงค์ หรือคำสั่งในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน  และกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทฯ นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ หรือคำสั่งที่บริษัทฯ กำหนด

 

9. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

ในกรณีที่บริษัทฯ มีการโอน ถ่าย และ/หรือส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือสัญญาร่วมธุรกิจกับหน่วยงาน องค์กรที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย อาทิเช่น

9.1 กรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นในการจัดเก็บ และ/หรือโอน ถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการจัดเก็บ

9.2 การประมวลผลในระบบคลาวด์ (Cloud) บริษัทฯ จะพิจารณาองค์กรที่มีมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยในระดับสากล และจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบการเข้ารหัส หรือวิธีการอื่น ๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เป็นต้น

อนึ่ง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลภายนอกที่บริษัทฯ จะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้จากเว็บไซต์ของบริษัทฯ ทั้งนี้รายชื่อบุคคลภายนอกที่บริษัทฯ จะทำการเปิดข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจมีการเพิ่มขึ้น หรือลดลงได้ซึ่งบริษัทฯ จะทำข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเสมอ

 

10. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย และความลับของข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความมั่นใจในการบริหารจัดการของบริษัทฯ ในการป้องกันความเสี่ยงอันอาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเข้าถึงโดยมิชอบ รั่วไหล ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข สูญหาย บริษัทฯ ถือปฏิบัติตามนโยบายความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศ รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศที่เป็นที่ยอมรับ และการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

บริษัทฯ มีมาตรการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะกำหนดให้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัทฯ เพื่อการให้บริการของบริษัทฯ เช่น พนักงานบริษัทฯ ซึ่งเป็นบุคคลที่บริษัทฯ อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะต้องยึดมั่น และปฏิบัติตามมาตรการการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยบริษัทฯ มีมาตรการป้องกันทั้งทางกายภาพ และทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่บังคับใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อบริษัทฯ ทำสัญญา หรือข้อตกลงกับบุคคลที่สาม บริษัทฯ จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ครอบครองจะความปลอดภัย

11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังต่อไปนี้

11.1 สิทธิในการขอรับทราบความมีอยู่ ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ของบริษัทฯ

11.2 สิทธิในการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตน ซึ่งบริษัทฯ จะมีขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อให้ท่านยืนยันตัวตนกับทางบริษัทฯ ก่อน

11.3 สิทธิในการขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

11.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน รวมถึงสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

11.5 สิทธิในการขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเป็นการชั่วคราว

11.6 สิทธิในการขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

11.7 สิทธิในการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งผู้ใช้บริการไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวม หรือจัดเก็บ

11.8 สิทธิในการถอนความยินยอมที่เคยให้แก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดช่องทางการติดต่อเพื่อใช้สิทธิของท่านตามรายละเอียดในข้อ 18 โดยบริษัทฯ จะดำเนินการ และพิจารณาตามที่ท่านร้องขอภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้อง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ สามารถปฏิเสธการดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด  หรือตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯ กรณีที่จะทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเสียสิทธิประโยชน์     ต่าง ๆ

อนึ่ง การลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้  หรือการยกเลิกความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถทำได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯ เท่านั้น ทั้งนี้การใช้สิทธิดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อกรณีการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทฯ หรือกรณีการให้บริการอื่น ๆ เนื่องจากจะไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ จึงอาจเกิดข้อจำกัดในการให้บริการในบางส่วนที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และอาจทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ได้รับสิทธิประโยชน์การบริการ และข่าวสารจากบริษัทฯ ต่อไป

 

12. ระยะเวลาจัดเก็บ และสถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ และความจำเป็นที่บริษัทฯ จะต้องดำเนินการจัดเก็บรวบรวม และประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่เจ้าของข้อมูลไม่มีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทฯ ระยะเวลาหนึ่ง และสอดคล้องตามระยะเวลา และอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นต้น

 

13. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด

นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น และภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การจัดส่งเอกสารเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่าง ๆ ทางไปรษณีย์ อีเมล และด้วยวิธีการอื่นใด รวมถึงการดำเนินการด้านการตลาดแบบตรง  เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับจากการเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ผ่านการแนะนำผลิตภัณฑ์ และบริการที่เกี่ยวข้อง

ท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับการสื่อสารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดจากบริษัทฯ ยกเว้นการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูล และ/หรือบริการที่บริษัทฯ ได้ให้แก่ท่าน เช่น ใบเสร็จรับเงิน       เป็นต้น

 

14. คุกกี้

บริษัทฯ จะใช้คุกกี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเก็บข้อมูล และรวบรวมสถิติ วิจัย วิเคราะห์แนวโน้ม ตลอดจนนำมาปรับปรุง และควบคุมการทำงานของเว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชัน ทั้งนี้การเก็บคุกกี้นั้นเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

 

15. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ภายนอก

เว็บไซต์ของบริษัทฯ จะมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สามซึ่งเว็บไซต์เหล่านั้นอาจมีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างจากของบริษัทฯ ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์นั้น ๆ เพื่อเข้าใจถึงรายละเอียดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อตัดสินใจในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม

 

16. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และนโยบาย ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ของบริษัทฯ รวมทั้งประสานงาน และให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

17. คำถามที่เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว

หากท่านมีคำถาม  หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือการจัดการดูแลข้อมูลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายัง

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เบอร์โทรศัพท์ 0-2242-4000 หรืออีเมล dpo@boonrawd.co.th

 

18. ช่องทางการติดต่อ

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ ข้อมูลที่ทางบริษัทฯ เก็บรวบรวม หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อ 11. ท่านสามารถติดต่อมายัง

 

ชื่อบริษัทฯ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
ที่อยู่ 999 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
เว็บไซต์ของบริษัทฯ www.boonrawd.co.th
เบอร์โทรศัพท์

อีเมล

0-2242-4000

dpo@boonrawd.co.th

19. ติดต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Appropriate Authority)

หากท่านต้องการรายงานเรื่องร้องเรียน หรือหากท่านรู้สึกว่าบริษัทฯ ไม่ตอบข้อกังวลของท่านในลักษณะที่น่าพึงพอใจ ท่านสามารถติดต่อ และ/หรือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามรายละเอียดด้านล่าง

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

อีเมล                            pdpc@mdes.go.th

เบอร์โทรศัพท์              0-2142-1033

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือผู้เข้ามาติดต่อ

 

            บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่น่าเชื่อถือระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลภายนอก บริษัทฯ จึงยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ของราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัทฯ เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือผู้เข้ามาติดต่อ (รวมเรียกว่า “ท่าน”) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ และรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

 

1. นิยาม

บริษัทฯ หมายถึง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัทซึ่งมีรายชื่อตามลิงค์นี้ https://www.boonrawd.co.th
พนักงาน หมายถึง พนักงานของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือ
ผู้ดูแลระบบงาน หมายถึง หน่วยงาน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของระบบงาน หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบงานหนึ่ง ๆ
เจ้าของระบบงาน หมายถึง ผู้บริหารของฝ่ายงานทางธุรกิจ หรือผู้บริหารที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อระบบงานหนึ่ง ๆ
ผู้เยาว์

 

 

เจ้าของข้อมูล

ส่วนบุคคล

หมายถึง บุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ยกเว้นบุคคลธรรมดาที่มีอายุยังไม่ครบยี่สิบปีบริบูรณ์แต่ได้ทำการสมรสตามกฎหมายอันมีผลให้เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งมีความหมายในลักษณะเป็นบุคคลที่ข้อมูลนั้นชี้บ่งไปถึง ไม่ใช่เป็นเจ้าของในลักษณะทรัพยสิทธิ หรือเป็นคนสร้างข้อมูลนั้นขึ้นมา

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล รูป ลายนิ้วมือ รหัสประชาชน ซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางตรง หรือการเก็บ Location หรือ Cookie ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ในทางอ้อม นอกจากนี้รวมถึงข้อมูลที่โดยพื้นฐานแล้วไม่สามารถนำไประบุตัวบุคคลได้แต่เมื่อนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นแล้วก่อให้เกิดชุดข้อมูลที่สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น ที่อยู่ เพศ และอายุ เมื่อนำมารวมกันสามารถนำไประบุตัวบุคคลได้ก็จะเกิดเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

 

 

 

 

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพ หรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองภาพใบหน้า (Face Recognition) ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบจัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
แอปพลิเคชัน หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดยแอพพลิเคชั่น (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่าส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่าง ๆ

 

 

 

คุกกี้ (Cookie) หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับเข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว
ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดทำข้อมูลนิรนามแล้ว

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ได้แก่

2.1.1 เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของบริษัทฯ ไม่ว่ากิจกรรมดังกล่าวจะจัดโดยบริษัทฯ หรือบุคคลที่บริษัทฯ ว่าจ้าง หรือเป็นกิจกรรมที่บริษัทฯ มีส่วนร่วมในการจัด บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ หรือเมื่อท่านเข้ามาในบริเวณพื้นที่จัดกิจกรรม หรือพื้นที่ของบริษัทฯ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม เช่น

(ก) ข้อมูลสำหรับการลงทะเบียน และการเข้าร่วมกิจกรรม เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล แชทออนไลน์ โซเชียลมีเดีย

(ข) ภาพและเสียง รูปถ่าย และภาพเคลื่อนไหว

(ค) กิจกรรม หรือเหตุการณ์ที่ท่านเคยเข้าร่วมในอดีต หรือที่เคยลงทะเบียนไว้

(ง) รายละเอียดการชำระเงิน และธุรกรรมทางการเงินของท่านที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม

(จ) รายละเอียดของบุคคลที่ท่านอ้างถึง และรายละเอียดของผู้ที่บริษัทฯ สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ ให้ท่านแจ้งนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย

2.1.2 เมื่อท่านเป็นบุคคลทั่วไปที่เข้ามาบริเวณพื้นที่ของบริษัทฯ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดย

(ก) เมื่อท่านเข้ามาในพื้นที่ของบริษัทฯ จะมีการเก็บภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (“กล้อง CCTV”) ของบริษัทฯ โดยไม่ได้เก็บข้อมูลเสียงผ่านทางกล้อง CCTV อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะติดป้ายให้ทราบว่ามีการใช้กล้อง CCTV ในบริเวณพื้นที่ของบริษัทฯ

(ข) บันทึกของผู้มาติดต่อ (visitor records)

– ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชน หรือหลักฐานอื่นทำนองเดียวกัน

– เมื่อท่านเข้ามาภายในบริเวณบริษัทฯ ด้วยยานพาหนะ บริษัทฯ จะเก็บหมายเลขทะเบียนยานพาหนะ

(ค) เมื่อท่านใช้บริการ Wi-Fi ของบริษัทฯ ท่านต้องทำการลงทะเบียนเข้าใช้งานตามข้อกำหนดการใช้งานของบริษัทฯ โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมเพื่อดำเนินการให้บริการ Wi-Fi แก่ท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล

 

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)

2.2.1 บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

  • บริษัทฯ อาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

(ก) ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง โรคประจำตัว ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา หมู่โลหิต ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการจ่ายยา เพื่อประโยชน์ในการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ หรือการเข้ามาในพื้นที่ของบริษัทฯ รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อการบริหารจัดการที่เหมาะสมอื่นๆ

(ข) ข้อมูลชีวภาพเพื่อใช้ในการระบุ และยืนยันตัวตนของท่าน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น

(ค) ความเชื่อในลัทธิศาสนา ปรัชญา เชื้อชาติ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรมที่เหมาะสม

(ง) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่านเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

2.2.3 ในกรณีที่จำเป็น บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน รวมทั้งการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านไปต่างประเทศต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้บริษัทฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน

ซึ่งต่อไปในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับท่านข้างต้นรวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

3.1 เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ เช่น เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของบริษัทฯ หรือเข้ามาติดต่อในพื้นที่ของ        บริษัทฯ เพื่อดำเนินการใด ๆ

3.2 เพื่อให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนด เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย

3.3 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เช่น การบันทึกเสียง การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหวกล้อง CCTV การยืนยันตัวตน การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับจากท่าน การวิเคราะห์ และจัดทำฐานข้อมูล การบริหารจัดการ และปรับปรุง การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมการเข้าออกอาคารสถานที่ บริเวณภายในพื้นที่ และระบบสารสนเทศ อินเตอร์เน็ตของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัย การป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรมเป็นหลักฐานในการสืบสวน สอบสวนทั้งกรณีมาตรการภายในบริษัทฯ หรือการดำเนินการของเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย

3.4 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ และหากท่านเป็นผู้เยาว์ ก่อนให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ โปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้บริษัทฯ ทราบ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของท่านด้วย

3.5 เพื่อป้องกัน และระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน หรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุม และการป้องกันโรค

3.6 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัทฯ

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่าน หรือฐานทางกฎหมายอื่นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เช่น ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ให้บริการภายนอกทั้งในประเทศ และต่างประเทศด้านการรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบประวัติ การจัดทำโปรแกรม ระบบสารสนเทศ ผู้ให้บริการกล้อง CCTV ผู้จัดงาน จัดกิจกรรม ตัวแทนของบริษัทฯ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย นิติบุคคล หรือบุคคลใด ๆ ที่มีความสัมพันธ์ หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัทฯ บุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจ หรือให้บริการแก่ท่าน ซึ่งรวมตลอดถึงผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทฯ และของบุคคล หรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว

บริษัทฯ จะกำหนดให้ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

 

5. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ บริษัทฯ จึงอาจมีความจำเป็นต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทฯ เช่น การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน Server, Cloud ในประเทศต่าง ๆ

กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะดูแลการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกรณีที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมาตรการเยียวยาตามที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับตามที่กฎหมายประเทศนั้นกำหนด เช่น กำหนดให้ผู้รับข้อมูลมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเทียบเท่ากับมาตรการของบริษัทฯ มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกัน บริษัทฯ อาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบ และรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการให้การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้

6. ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนด หรืออนุญาตไว้ หรือตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้

6.2 ในกรณีกล้อง CCTV บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูล ดังนี้

6.2.1 ในสถานการณ์ปกติ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บไว้นานถึง 30 วัน

6.2.2 ในกรณีจำเป็น เช่น ต้องใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวน สอบสวน ดำเนินคดี หรือกรณีที่เจ้าของส่วนบุคคลร้องขอ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บไว้เกินกว่า 30 วัน และบริษัทฯ จะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัยเมื่อเสร็จสิ้นวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว

6.3 กรณีที่บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอมเพื่อให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้

6.4 บริษัทฯ จะลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม หรือสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

7. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจ หรือโดยไม่ชอบ และบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็น และเหมาะสม

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และมีความปลอดภัยตามมาตรการที่บริษัทฯ กำหนดเมื่อต้องมีการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น ดังนี้

8.1  สิทธิขอถอนความยินยอม

หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมาย หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อท่าน ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษา และสอบถามถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นก่อนเพิกถอนความยินยอม

ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่น ท่านให้คำรับรองว่าท่านมีอำนาจกระทำการแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการรับทราบนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และในการให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

8.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของท่าน

8.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

8.4 สิทธิขอคัดค้าน

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่ละกรณี

8.5 สิทธิขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอม หรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

8.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็น และต้องลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน

8.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.8 สิทธิร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

8.9 การใช้สิทธิ

การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิ และยื่นคำร้องต่อ บริษัทฯ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธ หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย (โดยท่านเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลบังคับใช้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)

ระยะเวลาดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ โดยเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอ

สิทธิ ระยะเวลาดำเนินการ
สิทธิขอถอนความยินยอม 7 วัน
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล 30 วัน
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
สิทธิขอคัดค้าน
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล 1 วัน

 

9. การติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ สามารถติดต่อบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ผ่านช่องทางดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เบอร์โทรศัพท์ 0-2242-4000 หรืออีเมล dpo@boonrawd.co.th

 

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป

 

ประกาศ ณ วันที่ 19 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

นายจุตินันท์  ภิรมย์ภักดี

 

กรรมการผู้จัดการใหญ่

 

 

ข้อมูลส่วนบุคคล คืออะไร?

ข้อมูลส่วนบุคคล* หมายถึง “ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ”

ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม

เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

  1. [ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน อาทิ ชื่อ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทร email]
  2. [ข้อมูล xxx]
  3. [ข้อมูล yyy]
  4. […]

แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก 2 ช่องทาง ดังนี้

  1. 1. เราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยเราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากขั้นตอนการให้บริการ ดังนี้
    1. ขั้นตอนการสมัครใช้บริการกับเรา หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิ์ต่างๆ กับเรา
    2. จากความสมัครใจของท่าน ในการทำแบบสอบถาม (survey) หรือ การโต้ตอบทาง email หรือ ช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างเราและท่าน
    3. เก็บจากข้อมูลการใช้ website ของเราผ่าน browser’s cookies ของท่าน
    4. […]
  2. เราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สาม ดังต่อไปนี้
    1. [บุคคลที่สามที่เปิดเผยข้อมูล]
    2. […]
  3. โดยได้รับข้อมูลด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้
    1. [วิธีการ เช่น ได้รับทาง email ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ ได้รับเป็นเอกสาร]
    2. […]

วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล

  1. [เราจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการ….]
  2. [เราจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการ….]

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว เราจะดำเนินการดังนี้กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • เก็บรวบรวม [รายละเอียดการประมวลผล]
  • ใช้ [รายละเอียดการประมวลผล]
  • เปิดเผย [รายละเอียดการประมวลผล] ทั้งนี้ บุคคล หน่วยงาน ที่เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมี ดังนี้

[รายชื่อ หรือ ประเภท (ละเอียดที่สุดเท่าที่จะสามารถระบุได้) ของผู้ที่อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน] 

นอกจากนี้ เราอาจจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานข้อมูลเครดิต เพื่อตรวจสอบ และอาจใช้ผลการตรวจสอบข้อมูล ดังกล่าวเพื่อการป้องกันการฉ้อโกง

เราอาจมีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานต่างประเทศหรือองค์กรระหว่าง

ประเทศ โดยมีรายชื่อดังนี้

[รายชื่อ]

หน่วยงานดังกล่าวมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ (appropriate safeguards) และจะสามารถบังคับใช้สิทธิ์ของเจ้าของข้อมูล รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาตามกฎหมายที่จะบังคับใช้ได้ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

[รายละเอียดของมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงาน ประเทศที่หน่วยงานนั้นตั้งอยู่พอสังเขป]

การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ควบคุมทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

1. ลักษณะการเก็บ [จัดเก็บเป็น Soft Copy / Hard Copy]

2. สถานที่จัดเก็บ [เก็บไว้ที่ห้อง ตู้ ที่มีอุปกรณ์นิรภัย / เก็บไว้ใน computer / เก็บไว้บน Cloud ที่ใช้บริการกับ…]

3. ระยะเวลาจัดเก็บ เป็นไปตามหัวข้อ ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

4. เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือ เราไม่มีสิทธิ์หรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว เราจะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นด้วยวิธีการ [วิธีการทำลาย กรณี Soft Copy / Hard Copy] และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน [จำนวนวัน] วันนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

เรามีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังนี้

  1. [ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน อาทิ ชื่อ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทร email]
    ระยะเวลาประมวลผล: 10 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญา
  2. [ข้อมูล xxx]

สิทธิ์ของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิ์ในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(1) สิทธิ์ในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent): ท่านมีสิทธิ์ในการเพิกถอนความยินยอมในการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับเราได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับเรา

(2) สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access): ท่านมีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้เรา ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้เราเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความ ยินยอมต่อเราได้

(3) สิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification): ท่านมีสิทธิ์ในการขอให้เราแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

(4) สิทธิ์ในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure): ท่านมีสิทธิ์ในการขอให้เราทำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบาง ประการได้

(5) สิทธิ์ในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing): ท่านมีสิทธิ์ในการระงับการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

(6) สิทธิ์ในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability): ท่านมีสิทธิ์ในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านที่ท่านให้ไว้กับเราไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือ ตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้

(7) สิทธิ์ในการคัดคานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object): ท่านมีสิทธิ์ในการคัดคานการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ DPO/เจ้าหน้าที่ฝ่ายของเราได้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิ์ข้างต้นได้ (รายละเอียดการติดต่อปรากฏในหัวข้อ “ช่องทางการติดต่อ” ด้านล่างนี้) หรือ ท่านสามารถศึกษา รายละเอียดเงื่อนไข ขอยกเว้นการใช้สิทธิ์ต่างๆ ได้ที่ [link รายละเอียดของการใช้สิทธิ์*] หรือท่านอาจศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ [link ข้อมูลสำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น TDPG3.0, เว็บไซตกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม http://www.mdes.go.th]

ทั้งนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการดำเนินตามสิทธิ์ข้างต้น โดยเราจะพิจารณาและแจ้งผลการ

พิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว

กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด

ในระหว่างการใช้บริการ เราจะส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาด และการส่งเสริมการตลาด ผลิตภัณฑ์ การ ให้บริการของเราที่เราคิดว่าท่านอาจสนใจเพื่อประโยชน์ในการให้บริการกับท่านอย่างเต็มประสิทธิภาพ หากท่านได้ตกลง ที่จะรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจากเราแล้ว ท่านมีสิทธิ์ยกเลิกความยินยอมดังกล่าวได้ทุกเมื่อ โดยท่านสามารถดำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้ ตามขั้นตอนดังนี้

[ขั้นตอนการยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสาร]

Cookies

Cookies คืออะไร?

Cookies คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การใช้งาน internet ของ ท่าน หรือ พฤติกรรมการเยี่ยมชม website ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของ Cookies ได้จาก https://www.allaboutcookies.org/

เราใช้ Cookies อย่างไร?

เราจะจัดเก็บข้อมูลการเขาเยี่ยมชม website จากผู้เขาเยี่ยมชมทุกรายผ่าน Cookies หรือ เทคโนโลยีที่ใกล้เคียง และเราจะใช้ Cookies เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิ์ภาพในการเข้าถึงบริการของเราผ่าน internet รวมถึงพัฒนาประสิทธิ์ภาพในการใช้งานบริการของเราทาง internet โดยจะใช้เพื่อกรณี ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อให้ท่านสามารถ sign in บัญชีของท่านใน website ของเราได้อย่างต่อเนื่อง
  2. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้งาน website ของท่าน เพื่อนำไปพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว และมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  3. […]

ประเภทของ Cookies ที่เราใช้?

เราใช้ Cookies ดังต่อไปนี้ สำหรับ website ของเรา

  1. [Functionality – cookies ที่ใช้ในการจดจำสิ่งที่ลูกค้าเลือกเป็น preferences เช่น ภาษาที่ใช้ เป็นต้น]
  2. [Advertising – cookies ที่ใช้ในการจดจำสิ่งที่ลูกค้าเคยเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้า บริการ หรือ สื่อโฆษณาที่เกี่ยวของเพื่อให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้งาน]
  3. […]

การจัดการ Cookies

ท่านสามารถตั้งค่ามิให้ browser ของท่าน ตกลงรับ Cookies ของเราได้ โดยมีขั้นตอนในการจัดการ Cookies ดังนี้

[ขั้นตอนการตั้งค่าโดยอาจกำหนดเป็นกรณีใช้ Google Chrome / กรณีใช้ Safari / กรณีใช้ Internet Explorer เป็นต้น]

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ website อื่น

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของเราและการใช้งาน website ของเราเท่านั้น หากท่าน ได้กด link ไปยัง website อื่น (แม้จะผ่านช่องทางใน website ของเราก็ตาม) ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ปรากฏใน website นั้นๆ แยกต่างหากจากของเรา

การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำเพื่อให้สอดคลองกับแนวปฏิบัติ และ กฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวของ ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว เราจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการ update ข้อมูลลงใน website ของเราโดยเร็วที่สุด

ปัจจุบัน นโยบายความเป็นส่วนตัวถูกทบทวนครั้งลาสุดเมื่อ [dd/mm/yy]

ช่องทางการติดต่อ

รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล

ชื่อ: [ชื่อภาษาไทย และอังกฤษ (ถ้ามี)]
สถานที่ติดต่อ: [ที่อยู่สำนักงานใหญ่ สถานที่ทำงานของผู้ควบคุมข้อมูล]
ช่องทางการติดต่อ: 
[โทรศัพท์]
[email]
[website ]
[ช่องทางติดต่อ หรือ รับข่าวสารอื่นๆ : อาทิ. LINE, Facebook, Instagram, Twitter หรือ Social Media อื่นๆ]

รายละเอียดตัวแทนผู้รับผิดชอบ (ถ้ามี)

[หมายเหตุ: สำหรับกรณีที่องค์กรเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลที่อยู่นอกราชอาณาจักร ตามมาตรา 5 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562]

ชื่อตัวแทนผู้รับผิดชอบ: [ชื่อภาษาไทย และอังกฤษ (ถ้ามี)]
สถานที่ติดต่อ: [ที่อยู่สำนักงานใหญ่ สถานที่ทำงานของผู้ควบคุมข้อมูล]
ช่องทางการติดต่อ:
[โทรศัพท์]
[email]
[website]

[ช่องทางติดต่อ หรือ รับข่าวสารอื่นๆ : อาทิ. LINE, Facebook, Instagram, Twitter หรือ Social Media อื่นๆ]

รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) (ถ้ามี)

ชื่อ: [ชื่อภาษาไทย และอังกฤษ (ถ้ามี)]
สถานที่ติดต่อ: [ที่อยู่สำนักงานใหญ่ สถานที่ทำงานของผู้ควบคุมข้อมูล]
ช่องทางการติดต่อ:
[โทรศัพท์]
[email]

รายละเอียดหน่วยงานกำกับดูแล

ในกรณีที่เราหรือลูกจ้างหรือพนักงานของเราฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแล ตามรายละเอียดดังนี้

ชื่อ: สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ: [ที่อยู่]
ช่องทางการติดต่อ:
[โทรศัพท์]
[email]

ระยะเวลาในการติดต่อ / ร้องเรียน [ภายใน…วันนับแต่….. ]

นิยามข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

hescosolution.com จะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฏหมายและเป็นธรรมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็น
ภายใต้วัตถุประสงค์การทำงานของ hescosolution.com ที่เป็น โดยจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

  • คุ๊กกี้การใช้งานเว็บไซต์
  • ชื่อ
  • นามสกุล
  • โทรศัพท์
  • อีเมล์

ทั้งนี้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการทำงานของ hescosolution.com นี้ หากไม่มีข้อมูลดังกล่าว
ระบบจะไม่สามารถทำงานโดยสมบูรณ์ ผู้ใช้เป็นผู้เลือกได้ว่าจะบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใด
และยินดีจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่นหรือไม่

แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

hescosolution.com ได้รับข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยความสมัครใจของผู้ใช้เท่านั้น โดยการลงทะเบียนใช้ hescosolution.com
จะถือเป็นการยอมรับเงื่อนไขการใช้งานและอนุญาติให้ระบบจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลเหล่านั้นได้ตามวัตถุประสงค์

วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

hescosolution.com จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำไปใช้หรือเปิดเผยเท่าที่จำเป็น ภายใต้วัตถุประสงค์ในการใช้บริการ

hescosolution.com จะไม่ดำเนินการอื่นใดแตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ เว้นแต่ มีกฏหมายบัญญัติให้กระทำ
หรือมีหนังสือร้องขอที่สามารถปฏิบัติได้ตามกฏหมาย เช่น เพื่อความจำเป็นในการป้องกันด้านสุขภาพและโรคติดต่ออันตราย

การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

hescosolution.com จะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้เท่านั้น นอกจากนี้ hescosolution.com
อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฏหมาย เช่น
การพิจารณาคดีของศาลและการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาคดี

การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

hescosolution.com ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน hescosolution.com
จึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับ
และป้องกันการเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย

โดยมีระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตลอดระยะเวลาการใช้งาน hescosolution.com เพื่อให้ระบบทำงานได้โดยสมบูรณ์
ทั้งนี้เมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษา และไม่มีเหตุให้ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป บริษัทฯ
จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิในการดำเนินการ ได้แก่ สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม, สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล,
สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล, สิทธิในการลบและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฏหมาย

ท่านสามารถติดต่อ hescosolution.com เพื่อให้ดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และจะแจ้งผลตามคำร้อง ภายใน 30
วัน

หากพบการรั่วไหมของข้อมูล ทาง hescosolution.com จะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบภายใน 72 ชั่วโมง

ช่องทางติดต่อ

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

hescosolution.com
Hesco Solution Co., Ltd 67 MOO 4 Klongmaduea, Krathumbaen, Samutsakhon Thailand 74110
(66 (0)3446-9504)
marketing@hescosolution.com

 

 
 

Have a question?
Come talk to us!

    It is a long established fact that a reader will be distracted by the readable content of a page when looking at its layout.The point of using Lorem Ipsum is that it has a more-or-less normal distribution of letters, as opposed to using 'Content here,

    Frozen Ready
    Meals

    Retort Pouch

    Retort Pouch

    Noodle In Retort
    Pouch

    Dipping Sauces

    Curry paste Pouch

    Hesco Solution Co., Ltd.

    The Hesco Solution plant in Samutsakhon devotes 3,862 square meters to high-integrity foodprocessing lines.

    An Alliance of Committed Professionals
    Thai food hardly needs an introduction, with a global following and fans spread far and wide. It is not surprising that the motherland to this versatile cuisine is endowed with an abundance of fresh material, spices, and produce-everything needed to make Thailand one of the world's leading providers of quality food products. And as an international hub and gateway to the Far East, Thailand offers more than local exotic delights-it is a virtual global kitchen.

    Hesco Solution Co., Ltd. is founded on the vision to offer the best of Thailand's and this region's food and culinary wealth. Established in July 2013, the company brings together seasoned professionals in the ready-to-serve food, marketing, and export sectors. The company's state-of-the-art plant is situated in Karthumban district of Samutsakhon province, where bountiful sources of raw material and supply routes converge about 25 kilometers south of Bangkok.

    The Hesco Solution venture is unique because it is built on proven expertise, and the mission to present healthful, high-quality, great-tasting foods using modern sourcing, processing, product-testing, and marketing knowhow. World-class quality assurance standards such as GMP, HACCP and BRC ensure full satisfaction with every product that we deliver. We are excited to make a difference in the world foods industry, and excited to be your partner in great tastes.

    พันธกิจความอร่อย-icon

    A Delicious Mission

    The mission of Hesco Solution Co., Ltd. is to produce delicious, authentic-yeasting, high-quality sauces, curry and seasoning pastes, ready-to-serve meals, and value-added frozen processed seafood and chicken. We supply domestic and international food processing industries, supermarkets, convenience stores, hotel, and restaurants that demand excellence in both product quality and customer service.

    วิสัยทัศน์-ที่จะให้บริการที่ดีที่สุด-icon

    A vision to serve the best

    The Hesco Solution management team is a "mixing pot" of expertise committed to serving customers with sensational food products, and close R&D, technical, through to marketing support.

    Products that Go Beyond Quality

    To each of our customers, we offer an unlimited scope of how Hesco Solution can best meet your wishes. Our product research and development team can quickly and precisely tailor recipes to suit different palates. The customer can expect total involvement and dedication from our staff every step of the way. From careful selection of the freshest and finest raw materials, to rigorous monitoring of each processing, we pay scrupulous attention to quality assurance. QC and testing procedures are in place at the beginning, in the middle, and at the end of every production process to ensure full confidence in the integrity of each product delivered.

    Above and beyond quality, the signature of Hesco Solution is authentic delicious flavors that are easy to prepare and economical-perfect for today's busy lifestyle that demands convenient solutions for healthful and delicious meals. Home-makers not to mention restaurant and hotel chefs find Inter Taste Foods a great time-and cost-saving partner. Our products help to avoid waste from perishable food supplies, inconsistent food preparation standards in the kitchen, costly staff, and strains on storage space. In short, Hesco Solution products bring great savings as well as great tastes.

    Production is divided into four distinct lines according to GMP food processing standards, as follow:

    • Sauces, pastes, and other liquid foods such as soups
    • Ready-to-eat meals-frozen as well as non-frozen
    • Frozen processed seafood and chicken products
    • Grilled products

    Machinery

    AIR SHOWER

    Air blower for blowing dust out of the body before entering the production area.

    STEAM JACKET

    • 250 LITRE & 500 LITRE
    • For blanching
    • For pre-cooked products
    • For cooking sauce

    ROTARY MACHINE

    • For packing products into bags

    RETORT

    • For sterilized product. (e.g.rice, sauce)

    SHOCK FREEZER

    • For freeze products

    อาหารแช่แข็ง
    พร้อมทาน

    แกง รีทอร์ท

    ข้าว รีทอร์ท

    บะหมี่

    ซอส

    พริกแกง

    It is a long established fact that a reader will be distracted by the readable content of a page when looking at its layout.The point of using Lorem Ipsum is that it has a more-or-less normal distribution of letters, as opposed to using 'Content here,

     
     

    มีคำถาม?
    มาคุยกับเราสิ!

      Hesco Solution Co., Ltd.

      โรงงาน เฮสโก โซลูชั่น ตั้งอยู่ที่สมุทรสาคร ใช้พื้นที่ 3,862 ตารางเมตร เพื่อสายการผลิตอาหารที่สมบูรณ์ ที่สุด

      การรวมตัวอย่างเหนียวแน่นของผู้เชี่ยวชาญ
      อาหารไทย แทบจะไม่ต้องมีคำแนะนำ เพราะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และเป็นที่ชื่นชอบอย่างกว้างขวาง ไม่น่าแปลกใจเลยที่มาตุภูมิของเมนู อาหารที่หลากหลายนี้ จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วย วัตถุดิบที่สด เครื่องเทศ และผลผลิตทุกอย่างที่จำเป็นที่จะทำให้ประเทศไทย เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพชั้นนำของโลก และในฐานะที่เป็น ศูนย์กลาง ระหว่างประเทศ และเป็นประตูสู่ตะวันออกไกล ประเทศไทยมีให้มากกว่า ผลิตภัณฑ์พื้นเมืองที่แปลกใหม่ มันเป็นเสมือนครัวโลกทีเดียว

      บริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ที่จะนำเสนอ ผลิตภัณฑ์อาหาร และความมั่งคั่งในผลผลิตที่ดีที่สุดของประเทศไทย และของภูมิภาคนี้ บริษัทฯ ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในเดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2556 บริษัทฯ ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ ระดับมืออาชีพทาง ด้านอาหารพร้อมทาน ทางการตลาดและ ภาคการส่งออก โรงงาน ของบริษัท ตั้งอยู่ที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็น แหล่งวัตถุดิบอันอุดมสมบูรณ์ และมีห่างจากกรุงเทพไปทางใต้ เพียงประมาณ 25 กิโลเมตร

      การลงทุนของ เฮสโก โซลูชั่น พิเศษกว่าที่อื่น เพราะ ถูกสร้างขึ้น บนความเชี่ยวชาญที่พิสูจน์มาแล้ว และ พันธกิจที่จะนำเสนออาหาร ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ที่มีคุณภาพสูง มีรสชาติที่ดี โดยมี ขบวนการสรรหาวัตถุดิบ มีขบวนการผลิต และใช้เทคโนโลยีในการ ทดสอบคุณภาพอาหาร และความรู้ทางการตลาดที่ทันสมัย มาตรฐานการประกันคุณภาพระดับโลก เช่น GMP, HACCP และ BRC จะช่วยรับประกันความพึงพอใจ ในทุกผลิตภัณฑ์ที่จากเรา พวกเรารู้สึกตื่นเต้น ที่จะสร้างความแตกต่าง ในอุตสาหกรรมอาหาร โลก และตื่นเต้นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของคุณ ในเรื่องของความอร่อย

      พันธกิจความอร่อย-icon

      พันธกิจความอร่อย

      พันธกิจของบริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด คือการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารที่อร่อย ใช้ยีสต์หมักจริงๆ ผลิตซอสปรุงรส ผงกระหรี่ และพริกแกง อาหารพร้อมทาน และเพิ่มมูลค่า ให้อาหารทะเล และไก่แปรรูป แช่แข็งเราจัดส่งวัตถุดิบเหล่านี้ ให้กับอุตสาหกรรมอาหารทั้งใน และต่างประเทศ ซุปเปอร์มาร์เก็ตร้านสะดวกซื้อ โรงแรม และ ร้านอาหารที่ต้องการ ความเป็นเลิศทั้งในด้าน คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการบริการลูกค้า

      วิสัยทัศน์-ที่จะให้บริการที่ดีที่สุด-icon

      วิสัยทัศน์ ที่จะให้บริการที่ดีที่สุด

      ทีมผู้บริหาร เฮสโก โซลูชั่น จากหลากหลาย ความเชี่ยวชาญ สู่ความมุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าด้วย ผลิตภัณฑ์อาหารที่เป็นเลิศ จากทีมวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคนิค ผ่านการสนับสนุน ทางการตลาด

      ผลิตภัณฑ์ ที่เหนือคุณภาพ

      สำหรับลูกค้าคนพิเศษของเรา เราเสนอผลิตภัณฑ์อาหารทุกรูปแบบตามที่ท่านปราถนาอย่างดีที่สุดทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเฮสโก โซลูชั่นสามารถออกแบบสูตรเมนูอาหารที่ท่านต้องการได้อย่างรวดเร็วและ ได้สูตรอาหารตามรสนิยมที่แตกต่างกัน ลูกค้าจะได้รับความทุ่มเท เอาใจใส่อย่างเต็มที่ในทุกขั้นตอนการทำงานจากพนักงานของเรา จากการคัดเลือกเฉพาะวัตถุดิบที่สดใหม่ และดีที่สุด จนถึงกระบวนการใน การตรวจสอบอย่างเข้มงวดในแต่ละการขั้นตอนการผลิต เราให้ความใส่ใจและระมัดระวังอย่างมากในการประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์จากเฮสโก โซลูชั่น เรามีการควบคุมคุณภาพและการทดสอบอยู่ในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อให้ความมั่นใจอย่างเต็มที่ในแต่ละผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาด

      ที่สำคัญไปกว่า คุณภาพ และชื่อเสียงของ เฮสโก โซลูชั่น คือรสชาติแห่งความอร่อยที่แท้จริง ที่ง่ายในการเตรียม และคุ้มค่าต่อการเลือกบริโภค สำหรับการดำเนินชีวิตที่วุ่นวายในทุกวันนี้ ที่ทำให้เกิดความต้องการความสะดวกในการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและอร่อย ไม่ว่าคุณจะ เป็นแม่ครัวที่บ้าน หรือเชฟตามร้านอาหาร และโรงแรม รับรองว่าจะมีความสุขไปกับผลิตภัณฑ์อาหารจาก เฮสโก โซลูชั่น ที่ทั้งคุ้ม ทั้งประหยัด ค่าใช้จ่าย ผลิตภัณฑ์ของเฮสโก โซลูชั่นจะช่วยให้ลดการสูญเสียจากผักเน่า เนื้อสัตว์ไม่สด วัตถุดิบที่หมดอายุ ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการ เตรียมอาหารในครัว เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเฮสโก โซลูชั่น จะช่วยประหยัดค่าแรง และไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บ โดยสรุปก็คือผลิตภัณฑ์จาก เฮสโก โซลูชั่น ช่วยให้คุณทั้งประหยัด และให้อาหารที่แสนอร่อย

      สายการผลิตของเรา แบ่งออกเป็น 4 สายตามมาตรฐานกระบวนการผลิตอาหาร GMP ได้แก่

      • ซอสปรุงรส น้ำจิ้ม และอาหารเหลวอื่นๆ เช่น น้ำซุป
      • อาหารปรุงสำเร็จ พร้อมรับประทาน ทั้งแบบแช่แข็ง และไม่แช่แข็ง
      • ผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ และอาหารทะเล แปรรูป แช่แข็ง
      • อาหารประเภทปิ้ง ย่าง

      เครื่องจักร

      AIR SHOWER

      ตู้เป่าลมสะอาด สำหรับเป่าฝุ่นให้หลุดจากตัวก่อนเข้าพื้นที่ผลิต

      STEAM JACKET

      • 250 ลิตร และ 500 ลิตร 
      • สำหรับลวกอาหาร
      • สำหรับการปรุงสุกอาหาร
      • สำหรับต้มซอส

      เครื่องบรรจุ

      • สำหรับ บรรจุสินค้า

      เครื่องรีทอร์ท

      • สำหรับ ฆ่าเชื้อโรค เพื่อรักษาสินค้าให้มีอายุยาวนานขึ้น

      SHOCK FREEZER

      • สำหรับ ฟรีสสินค้าแช่แข็ง

      About Us

      Product

      Business Solutions

      Thai food hardly needs an introduction,with a global following and fans spread
      far and wide. It is not surprising

      Hotel

      Thai food hardly needs an introduction,with a global following and fans spread
      far and wide. It is not surprising

      1 st

      listed global food-based
      oem platform in asia

      300

      SKUs
      of products with HESCO and
      OEM brands

      8

      Years
      of serving ethnic food
      experience globally

      3862

      There is an area with
      a complete food production
      line.

      Thai food hardly needs an introduction,with a global following and fans spread
      far and wide. It is not surprising

      เกี่ยวกับเรา

      ผลิตภัณฑ์

      ธุรกิจ

      การลงทุนของ เฮสโก โซลูชั่น พิเศษกว่าที่อื่น เพราะ ถูกสร้างขึ้นบน ความเชี่ยวชาญที่พิสูจน์มาแล้ว และ
      พันธกิจที่จะนำเสนออาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ที่มีคุณภาพสูง มีรสชาติที่ดี

      การส่งออก

      หนึ่งในผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพชั้นนำของโลก และในฐานะที่เป็น ศูนย์กลางระหว่างประเทศ และ
      เป็นประตูสู่ตะวันออกไกล ประเทศไทยมีให้มากกว่าผลิตภัณฑ์พื้นเมืองที่แปลกใหม่ มันเป็นเสมือนครัวโลกทีเดียว

      1 st

      listed global food-based
      oem platform in asia

      300

      SKUs
      of products with NRF and
      OEM brands

      8

      Years
      of serving ethnic food
      experience globally

      3862

      There is an area with
      a complete food production
      line.

      หนึ่งในผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพชั้นนำของโลก และในฐานะที่เป็น ศูนย์กลางระหว่างประเทศ
      และเป็นประตูสู่ตะวันออกไกล ประเทศไทยมีให้มากกว่าผลิตภัณฑ์พื้นเมืองที่แปลกใหม่ มันเป็นเสมือนครัวโลกทีเดียว

      เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่นโยบายความเป็นส่วนตัว We use cookies to improve performance. and good experience using your website You can study the details at Privacy Policy

      Privacy Preferences

      คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

      Allow All
      Manage Consent Preferences
      • Always Active

      Save